“หมอสรร สุนทรธนากุล” นำทีม “รักโพนพิสัย” ขอบคุณประชาชนที่ลงคะแนนเลือกทีม “รักโพนพิสัย” ให้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพนพิสัยยกทีม พร้อมรวมพลังสามัคคี รณรงค์ยกฐานะเป็น “เทศบาลเมืองโพนพิสัย” เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 เมษายน 2564) ที่บริเวณสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย/ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย หัวหน้าทีม “รักโพนพิสัย” เบอร์ 1 และเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัยเพียงหมายเลขเดียว ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา พร้อมลูกทีม “รักโพนพิสัย” ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโพนพิสัย ทั้ง 2 เขตเลือกตั้งแบบยกทีม ได้ลงพื้นที่ขอบคุณในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย เพื่อขอบคุณที่ไว้วางใจเลือกทีม “รักโพนพิสัย” ยกทีม พร้อมกันนี้ ยังได้มีการรวมพลังกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ยกฐานะเทศบาลเมืองโพนพิสัย ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลอำเภอโพนพิสัย นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล กล่าวว่าตนและทีม “รักโพนพิสัย” ขอกราบขอบคุณพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัยอีกครั้งหนึ่ง ที่ได้เทคะแนนเลือกทีม “รักโพนพิสัย” ยกทีม เพื่อให้เข้ามาบริหารเทศบาลฯและรับใช้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาล วันนี้ ทีม “รักโพนพิสัย” ได้จัดทีมเพื่อเดินขอบคุณพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย ที่เลือก “รักโพนพิสัย” ยกทีม ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างนโยบายยุทธศาสตร์ข้อที่ 1 คือการยกฐานะเทศบาลเมืองโพนพิสัย ให้เกิดขึ้นจริง จึงได้ถือโอกาสนี้เชิญผู้นำชุมชนเฉพาะในเขตตำบลจุมพล ทั้ง 26 หมู่บ้านมาร่วมรณรงค์ โดยจัดเป็นขบวนรณรงค์แฟนซี รณรงค์การรวมเทศบาลตำบลโพนพิสัย กับ อบต.จุมพล ให้เป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้นำชุมชนและประชาชนทุกหมู่บ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ นายแพทย์สรร กล่าวต่อไปอีกว่า ตำบลจุมพล เป็นตำบลที่ใหญ่มากในระดับประเทศ มีท้องถิ่น 2 แห่ง มีประชากร 2 หมื่นกว่าคน ซึ่งท้องถิ่น 2 แห่งคือ อบต.และเทศบาล ทับซ้อนกันอยู่ เขตนี้เป็นพื้นที่ ๆ ควรจะได้รับการพัฒนาและยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองมานานแล้ว ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลา 7 – 8 ปี คราวนี้ถือเป็นช่วงโอกาสที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนจะได้มีการรวมพลังสามัคคีทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ จากที่ได้มีการสำรวจและทำประชาคมหลายครั้งพบว่าประชาชนในพื้นที่มีความต้องการให้ยกฐานะเป็นเทศบาลเมือง เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองมีหลายวิธี เช่นการแบ่งบางส่วนของพื้นที่ให้ได้ประชากรเกิน 1 หมื่นคน ส่วนที่เหลือก็ยังเป็น อบต. หรือยุบรวมทั้งหมด จากการสำรวจพบว่าประชาชนไม่ต้องการแบ่งแยก เพราะหากตัดเอาเพียงพื้นที่บางส่วนมารวมเป็นเทศบาลเมือง ประชาชนที่อยู่รอบนอกก็จะดูเหมือนถูกทิ้ง จึงไม่สามารถจะแยกได้ต้องยุบรวมทั้งหมด 26 หมู่บ้านเข้าด้วยกัน ถ้ายกฐานะได้สำเร็จ เทศบาลเมืองโพนพิสัย ก็จะเป็นเทศบาลเมือง ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดหนองคาย รองจากเทศบาลเมืองหนองคาย ทำให้มีศักยภาพในการพัฒนา ซึ่งเมืองโพนพิสัย เป็นเมืองใหญ่ในอดีต มีเจ้าเมืองปกครอง ชื่อเดิมคือเมืองปากห้วยหลวง เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าการคมนาคม หากมีการยกฐานะสำเร็จก็จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดหนองคาย เป็นเมืองที่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปรากฏการณ์ “บั้งไฟพญานาคโลก” เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละปีหลายแสนคน ถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดหนองคาย ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลโพนพิสัย เป็นเจ้าภาพในการจัดงานทุกปี ดังนั้นหากสามารถยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัยได้ ก็จะเป็นเทศบาลที่สามารถรองรับงานต่าง ๆ ให้กับจังหวัดหนองคายได้เป็นอย่างดี.