เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ..รัฐสภา แถลงว่า บรรยากาศการพิจารณาของกรรมาธิการทั้ง 2 วันเป็นบรรยากาศของการประณีประนอมจากทุกพรรคการเมือง และวุฒิสภา เพราะมีเป้าหมายตรงกันคือต้องการให้พรบ.ประชามติผ่านไปด้วยดี เพราะฉะนั้นการถกเถียงกันเป็นบรรยากาศของการหาทางออกร่วมกัน เป็นการอภิปรายด้วยเหตุด้วยผลของเนื้อหา ไม่ได้มีอารมย์ความรู้สึก หรือความเห็นทางการเมืองใดๆนำมาโต้เถียงขัดแย้งกัน เพราะทุกคนแสดงความเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนที่มีการวิตกกังวลกันว่าจะมีความขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกฝ่ายได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ โดยเปิดโอกาสให้รัฐสภา และภาคประชาชนมีส่วนสำคัญในการเสนอทำประชามติ ดังนั้นกมธ.จึงได้ข้อสรุปในการปรับปรุงเนื้อหาให้สอดรับกับมาตรา 9 ให้แต่ละสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อการออกเสียงประชามติ พิจารณาแล้วว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
ส่วนการเข้าชื่อหรือจำนวนของประชาชนที่จะเสนอให้ครม.ทำประชามตินั้นได้มีการทบทวนอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งที่ประชุมได้ใช้เวลานาน แต่อภิปรายกันด้วยเหตุผล โดยกมธ.บางคน เสนอ 1 แสน บางคนเสนอ 2 แสน บางคนเสนอ 5 หมื่น และบางเสนอ 1 หมื่นชื่อ ซึ่งเห็นว่าจำนวน 1 หมื่นเสียงถือว่าน้อยเกินไป แต่การขับเคลื่อนในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครม.ต้องรับฟัง และในที่สุดที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ให้ใช้ 5 หมื่นชื่อ ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่ากฎหมายนี้จะตกไปหรือไม่ หรือสะดุดหยุดลงในวาระ 3 หรือในชั้นอื่นๆหรือไม่ เท่าที่พิจารณามา 2 วันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่น่าจะมีปัญหาใด และจะนำเสนอในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 7 เม.ย.แน่