“DITP” พร้อมจัด Online Live Streaming เพิ่มยอดขาย-ส่งออกสินค้า รับยุค New Normal

DITP เดินหน้านโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เตรียมจัดโครงการส่งเสริมการขายสินค้าอาหารและเกษตรไทยไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านช่องทาง Online Live Streaming วันที่ 28 เม.ย.นี้ช่วยผู้ประกอบการไทย ให้มีช่องทางในการจำหน่ายและเพิ่มยอดการส่งออก ในยุค New Normal นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังดำเนินโครงการส่งเสริมการขายสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตรไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านช่องทาง Online Live Streaming หรือสามารถเรียกสั้นๆว่า W.I.D.E (World International Direct Export) โดยเป็นไปตามยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ได้มอบนโยบายไว้ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 และขายสินค้าได้ยาก จึงได้เพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์รูปแบบใหม่ผ่าน Online Live Streaming ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าอาหาร วัตถุดิบประกอบอาหาร สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป มีโอกาสในการขยายการส่งออกไปยังตลาดโลกในยุค New Normal ได้เพิ่มขึ้น สำหรับการขายสินค้าผ่านช่องทาง Online Live Streaming จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอสินค้าผ่านสตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจรไปยังกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายในตลาดต่างประเทศ เช่น ผู้นำเข้า สมาคมการค้า ตัวแทนจำหน่าย ซูเปอร์มาร์เก็ต แพลตฟอร์มออนไลน์ B2B B2C ต่างๆ ร้านอาหาร โรงแรม ผู้ให้บริการธุรกิจบริการอาหาร โรงเรียนสอนทำอาหาร สถาบันการศึกษา และผู้บริโภค เป็นต้น โดยมีตลาดเป้าหมายได้แก่ อาเซียน เอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย อเมริกาและลาตินอเมริกา ทั้งนี้ กรมฯได้กำหนดการจัดโครงการ Online Live Streaming ในวันที่ 28 เมษายน 2564 โดยจะนำผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าเป้าหมาย มา Live Streaming ขายสินค้าให้กับกลุ่มผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเป้าหมาย ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ได้ไปติดต่อเอาไว้ และหากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสนใจสินค้า ก็จะมีการเจรจาธุรกิจกันต่อไป หรือหากต้องการดูตัวอย่างสินค้า ก็จะจัดส่งไปให้ดู หรือถ้าต้องการสินค้าในกลุ่มอื่นๆสามารถสอบถามข้อมูลกับทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศได้ โดยปัจจุบันทั่วโลก มีความต้องการสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตรเพิ่มขึ้น โดยไทยมีศักยภาพในการผลิตสูง และยังมีเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลก เพื่อสนับสนุนอาหารไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก การจัดทำโครงการดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทย แต่ยังช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดอาหารไทยในตลาดโลก และเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารและเกษตรกรได้เพิ่มขึ้นด้วย “ในปี 2563 การส่งออกสินค้าอาหารไทย มีมูลค่า 34,644 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.99% โดยสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกสูงได้แก่ ไก่ มูลค่า 3,347 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.40% ข้าว ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่า 4,087.77 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.06% โดยมีตลาดส่งออกหลักได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และกัมพูชา เป็นต้น”