"ม.หอการค้าไทย" ระบุ "พิษโควิด" ทำเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น คาด "สงกรานต์" หงอย เงินสะพัด 1.1 แสนล้าน ชี้ต่ำสุดในรอบ 9 ปี เร่งรัฐออกมาตรการกระตุ้น เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 จาก 1,256 ตัวอย่าง การใช้จ่ายเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังไม่คึกคักมากนัก มีเงินสะพัด 1.13 แสนล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 9 ปี แม้เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น 63 % เนื่องจากปีก่อน เป็นปีที่ไทยงดจัดกิจกรรมสงกรานต์ทั้งหมดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ถ้าเทียบกับปี2562 ที่มีสถานการณ์ปกติ การใช้จ่ายติดลบ 16.9% โดยจากการสำรวจ หลังจากที่รัฐบาลมีการประกาศงดกิจกรรมการเล่นสาดน้ำ ทำให้ประชาชนหันไปวางแผนทำบุญ, ทำอาหารอยู่กับบ้าน, รดน้ำดำหัวและเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ในขณะที่การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวยังคงใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ในหลายพื้นที่ ส่งผลกับความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายเงินถึงแม้ว่าจะมีมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนการสำรวจพฤติกรรมคนไทยมีการใช้จ่ายลดลง เนื่องจากต้องการประหยัด ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวจะเป็นระยะสั้น 3-5 วัน ซึ่งพบข้อสังเกตว่าเริ่มมีบรรยากาศการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะไปเที่ยวทางภาคใต้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ทั้งโครงการเราชนะ ท่องเที่ยวคนละครึ่ง ขณะที่ภาพรวมคนยังนิยมเดินทางรถยนต์ยังเป็นตัวหลัก สำหรับภาพรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวมากนัก ซึ่งเดิมเคยคาดการณ์ว่าช่วงสงกรานต์จะมีเงินสะพัด 1.4 แสนล้านบาท แต่ตัวเลขที่สำรวจได้แค่ 1.1 แสนล้านบาท เงินหายไป 2-3 หมื่นล้านบาท เป็นผลจากความกังวลต่อสถานการณ์โควิดทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นจำเป็นต้องประหยัดไว้ก่อน อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าสัญญาณเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นจากปัญหาโควิด ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องทั้งคนละครึ่งเฟส3 การสนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น และการดูแลภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ต่อไปอีก 2 ปี