กรมวิทย์เผยตรวจวัดค่ายังต่ำกว่ามาตรฐานนับพันเท่า ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ใกล้เคียง นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เปิดเผยว่า จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมการติดตั้งสถานีฐานระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือ พบว่า ในปี 2560 มีสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือ 115,684 สถานี และในปี 2562 เพิ่มขึ้น 170,577 สถานี เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนกังวลถึงความปลอดภัย โดยได้สอบถามมาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือที่มีจำนวนเพิ่มขี้นอย่างมากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานองค์การอนามัยโลกที่เป็นหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง หรือ International Agency for Research on Cancer : IARC ได้จัดให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ในตัวกระทำที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง กลุ่ม 2B เป็นกลุ่มเดียวกับพวก ผักดอง น้ำมันเบนซิน และไอระเหยของน้ำมันเบนซินที่มีผลอาจเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดโรงมะเร็ง จึงวิตกกังวลว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยมีการศึกษาวิจัยกันมากในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่เพียงพอจะสรุปได้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือมีผลร้ายหรืออันตรายต่อสุขภาพ จนกระทั่งในวันที่ 13 พ.ย.61 องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือปลอดภัยต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังกังวลถึงความปลอดภัยจากการสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ เป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านรังสีและเครื่องมือแพทย์ของประเทศ มีภารกิจประเมินความเสี่ยงจากภัยสุขภาพและคุ้มครองผู้บริโภคด้วยผลทางห้องปฏิบัติการ ในปีงบฯ62-63 ได้สำรวจค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือ เพื่อวัดค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและตรวจสอบว่าเกินกว่าค่าที่มาตรฐานสากลกำหนดหรือไม่ (International Commission on Non-ionizing Radiation Protection : ICNIRP) โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ที่ 950 MHz มีค่าไม่เกิน 4.5 W/m2 ความถี่ 1800 MHz มีค่าไม่เกิน 9 W/m2 และความถี่ 2100 MHz มีค่าไม่เกิน 10 W/m2 เพื่อประเมินความเสี่ยงและคุ้มครองผู้บริโภค ผลสำรวจวัดค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือในเขตกทม. 50 เขต อำเภอเมืองในเขตปริมณฑล 5 จังหวัด และอำเภอเมืองในจังหวัดภาคกลาง 16 จังหวัด รวม 2,217 สถานี โดยตรวจวัดในช่วงความถี่ 950-2100 MHz พบว่า ค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่วัดได้มีอยู่ในช่วงระหว่าง 0.000255 - 0.01776 (W/m2) ซึ่งค่าที่วัดได้นี้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ก่อให้เกิดอันตราย โดยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานประมาณ 500-1,000 เท่า จึงปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถือ “แม้ว่าผลสำรวจวัดค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสถานีจากฐานระบบโทรศัพท์มือถือจะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ มีแผนงานจะเฝ้าระวังประเมินความเสี่ยงและคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีฐานระบบโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่อง โดยปีงบปฯ65 จะขยายการตรวจวัดค่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังภัยสุขภาพและสื่อสารให้ประชาชนได้ทราบต่อไป” นพ.ศุภกิจ กล่าว