31 มี.ค.64 ความคืบหน้าไฟป่าเขตพื้นที่จ.ชัยภูมิ หลังการเกิดไฟไหม้ป่า ในเขตเทือกเขาภูแลนคา ที่เชื่อมต่อติดกับฝั่งเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บริเวณด้านหลังที่ทำการ อบต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ที่มีผู้ลักลอบแอบเผาเพื่อหวังจะเก็บของป่า เบื้องต้นวอดกว่า400ไร่ ในช่วงเย็นวันที่ 30 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา
ขณะที่นายนพวงศ์ พฤกษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้วางแผนและแบ่งกำลังนำออก จนท.อช.ตาดโตน จนท.พิทักษ์ไฟป่า อช.ตาดโตนชัยภูมิ ออกดับทั้งทำแนวเขตควบคุมเพลิงตลอดทั้งคืนตั้งแต่เวลา17.00น.(30) แม้ทางจนท.อช.ตาดโตน จนท. พิทักษ์ไฟป่า อช.ตาดโตนได้ขอระดมกำลังร่วม จนท.อบต.ห้วยไร่ กู้ภัยสว่างคุณธรรมและชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงได้ออกช่วยกันใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่พอหาได้ ช่วยกันดับและทำแนวเขตกั้นไม่ให้เพลิงลุกลามออกไปเป็นแนวกว้างขึ้นกว่าเดิม ถึงปัจุบันจะควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามไปในพื้นที่ใกล้ชุมชนได้ ขณะที่ทางจนท.กำลังเฝ้าระวังและควบคุมเพลิงในพื้นที่
นายนพวงศ์ พฤกษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน ก็ได้รับแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้อีกหนึ่งจุดจึงได้แบ่งกำลังเคลื่อนย้ายนำเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ไปยังพื้นที่ป่าในเขต ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อีก เพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์ให้เร็วที่สุดหลังพบมีผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าหาของป่าลามเป็นไฟไหม้ป่าอีกรวมวันเดียวกันเป็น 3 จุด
ด้านนางลักษณา หิรัญวรรณ ปลัด อบต.ห้วยไร่ ปฎิบัติหน้าที่นายก อบต.ห้วยไร่ ได้เร่งนำเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย อบต.ห้วยไร่ หน่วยผจญเพลิงอาสาสมัครมูลนิธิฯ หน่วยงานในพื้นที่ ร่วมออกพื้นที่ด้วย
ก่อนที่จะร่วมประชุมวางแผนเพื่อที่จะกระจายกำลังออกไปควบคุมไฟป่าต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนเป็นวันที่ 2 แล้วจน จนท.ทุกคนเริ่มอ่อนเพลียกันหลายคนแล้ว
ซึ่งล่าสุดสรุปข้อมูลจากทาง สนง.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยภูมิ ผลของการเผาป่าจนเกิดไฟไหม้ในวันที่30-31มี.ค.รวม7 มีพื้นที่เสียหาย 275ไร่ คือจุดที่ 1.บริเวณอุทยานแห่งชาติตาดโตน ในพื้นที่บ้านซับรวงไทร ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ 2.วัดน้ำผุด บ้านซับทอง ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 3.บ้านดงเย็น ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 4.บ้านชับผักกูด ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 5.บ้านซับสมบูรณ์ ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 6.บ้านโคกไม้งาม ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ และจุดที่ 7.พื้นที่บ้านนา หนองทุม ตำบลนาหนองทุม อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติตาดโตน
ทั้งยังสร้างผลกระทบจากกลุ่มหมอกควันหนาแน่นเข้าปกคุมหมู่บ้านใกล้เคียงแผ่ออกเป็นบริเวณกว้างใน3อำเภอ คือเขตรอยต่อระหว่าง ที่หมู่บ้านนาเสียว อ.เมืองชัยภูมิ ที่บ้านซับผักกูด ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ และเขตรอยต่อที่ ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ทันที
ซึ่งยังทำให้สร้างความสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ กลายเป็นพื้นดินเสื่อมโทรม ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศมีหมอกควันหรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พุ่งขึ้นสูงสุดถึง104ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในช่วงสีส้ม ที่ต้องเฝ้าระวังอันตราย ซึ่งจะส่งผลทำให้สุขภาพของประชาชนเจ็บป่วยส่งผลกระทบกับโรคทางเดินหายใจโดยตรงได้ง่ายอีกด้วย
ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เผยว่า ปัจจุบันในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้ง 16 อำเภอ ก็มีปัญหาเรื่องการเผาไร่อ้อย ตอซังข้าว ไร่นา หรือเผาในที่แจ้งที่ชุมชน ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ที่ตาเรามองไม่เห็นอยู่แล้ว และในขณะนี้ ยังมีการรับรอบเผาป่า ทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่กินบริเวณกว้าง หลายอำเภอ หลายหมู่บ้าน จนทำให้มีหมอกควัน รวมทั้งเถ่าผงจากการเผาไหม้จำนวนมากเข้าปกคลุมและปลิวลอยในอากาศ ก่อให้เกิดค่า ฝุ่นขนาดเล็กหรือ PM 2.5 พุ่งขึ้นในระดัยสีส้มอย่างรวดเร็ว จึงอันตรายอย่างมากต่อบุคคลหรือผู้ป่วยที่ต้องสูดดมละอองฝุ่นเข้าไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจโดยตรง จึงอยากฝากเตือนประชาชนพี่น้องชาวชัยภูมิ ก่อนออกจากบ้านก็ขอให้สวมใส่แมสหน้ากาก ที่ช่วยปกป้อง ฝุ่นควันขนาดเล็กหรือ PM 2.5 เพิ่มอีกด้วย และขอให้พี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ ช่วยกันบอกไม่เผาในที่แจ้งอีกด้วยต่อไป
นายนพวงศ์ พฤกษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน ก็ได้รับแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้อีกหนึ่งจุดจึงได้แบ่งกำลังเคลื่อนย้ายนำเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ไปยังพื้นที่ป่าในเขต ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อีก เพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์ให้เร็วที่สุดหลังพบมีผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าหาของป่าลามเป็นไฟไหม้ป่าอีกรวมวันเดียวกันเป็น 3 จุด
ด้านนางลักษณา หิรัญวรรณ ปลัด อบต.ห้วยไร่ ปฎิบัติหน้าที่นายก อบต.ห้วยไร่ ได้เร่งนำเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย อบต.ห้วยไร่ หน่วยผจญเพลิงอาสาสมัครมูลนิธิฯ หน่วยงานในพื้นที่ ร่วมออกพื้นที่ด้วย
ก่อนที่จะร่วมประชุมวางแผนเพื่อที่จะกระจายกำลังออกไปควบคุมไฟป่าต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนเป็นวันที่ 2 แล้วจน จนท.ทุกคนเริ่มอ่อนเพลียกันหลายคนแล้ว
ซึ่งล่าสุดสรุปข้อมูลจากทาง สนง.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยภูมิ ผลของการเผาป่าจนเกิดไฟไหม้ในวันที่30-31มี.ค.รวม7 มีพื้นที่เสียหาย 275ไร่ คือจุดที่ 1.บริเวณอุทยานแห่งชาติตาดโตน ในพื้นที่บ้านซับรวงไทร ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ 2.วัดน้ำผุด บ้านซับทอง ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 3.บ้านดงเย็น ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 4.บ้านชับผักกูด ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 5.บ้านซับสมบูรณ์ ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ 6.บ้านโคกไม้งาม ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ และจุดที่ 7.พื้นที่บ้านนา หนองทุม ตำบลนาหนองทุม อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติตาดโตน
ทั้งยังสร้างผลกระทบจากกลุ่มหมอกควันหนาแน่นเข้าปกคุมหมู่บ้านใกล้เคียงแผ่ออกเป็นบริเวณกว้างใน3อำเภอ คือเขตรอยต่อระหว่าง ที่หมู่บ้านนาเสียว อ.เมืองชัยภูมิ ที่บ้านซับผักกูด ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ และเขตรอยต่อที่ ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ทันที
ซึ่งยังทำให้สร้างความสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ กลายเป็นพื้นดินเสื่อมโทรม ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศมีหมอกควันหรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พุ่งขึ้นสูงสุดถึง104ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในช่วงสีส้ม ที่ต้องเฝ้าระวังอันตราย ซึ่งจะส่งผลทำให้สุขภาพของประชาชนเจ็บป่วยส่งผลกระทบกับโรคทางเดินหายใจโดยตรงได้ง่ายอีกด้วย
ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เผยว่า ปัจจุบันในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้ง 16 อำเภอ ก็มีปัญหาเรื่องการเผาไร่อ้อย ตอซังข้าว ไร่นา หรือเผาในที่แจ้งที่ชุมชน ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ที่ตาเรามองไม่เห็นอยู่แล้ว และในขณะนี้ ยังมีการรับรอบเผาป่า ทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่กินบริเวณกว้าง หลายอำเภอ หลายหมู่บ้าน จนทำให้มีหมอกควัน รวมทั้งเถ่าผงจากการเผาไหม้จำนวนมากเข้าปกคลุมและปลิวลอยในอากาศ ก่อให้เกิดค่า ฝุ่นขนาดเล็กหรือ PM 2.5 พุ่งขึ้นในระดัยสีส้มอย่างรวดเร็ว จึงอันตรายอย่างมากต่อบุคคลหรือผู้ป่วยที่ต้องสูดดมละอองฝุ่นเข้าไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจโดยตรง จึงอยากฝากเตือนประชาชนพี่น้องชาวชัยภูมิ ก่อนออกจากบ้านก็ขอให้สวมใส่แมสหน้ากาก ที่ช่วยปกป้อง ฝุ่นควันขนาดเล็กหรือ PM 2.5 เพิ่มอีกด้วย และขอให้พี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ ช่วยกันบอกไม่เผาในที่แจ้งอีกด้วยต่อไป