สำนักงานสหกรณ์จังหวัดระนอง จัดประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ระดับจังหวัด อนุมัติ 8.8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดระนอง นายสมจิตร์ เขียนด้วง รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ระดับจังหวัด โดยมีสหกรณ์จังหวัดระนอง และผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ร่วมการประชุม เพื่อรับทราบการจัดสรรวงเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้กับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดระนอง โดยในปี 2564 จังหวัดระนองได้รับการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 31.10 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการปกติ ตามการจัดชั้นลูกหนี้สหกรณ์ จำนวน 10.80 ล้านบาท และโครงการพิเศษ (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1) จำนวน 20.30 ล้านบาท ดำเนินการพิจารณาและจัดสรรให้สหกรณ์ไปแล้ว จำนวน 10.90 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจรวบรวมกาแฟในสถาบันเกษตรกร ประจำปี 2564 จำนวน 10.50 ล้านบาท โดยพิจารณาให้แก่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ระนอง จำกัด7 ล้านบาท และสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด 3.50 ล้านบาท และโครงการปกติของสหกรณ์รถยนต์โดยสารระนอง จำนวน 0.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมครั้งที่ผ่านมา ติดตามผลการรับชำระหนี้เงินกู้ เร่งรัดหนี้ค้างชำระ และพิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 8.8 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.พิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ โครงการปกติ จำนวน 6 ล้านบาท พิจารณาคำขอกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานราชการจังหวัดระนอง จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาทต่อปี และพิจารณาคำขอกู้ของสหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 5 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ได้แก่ ลูกสุกรขุนและอาหารสัตว์ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาทต่อปี
2.พิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ โครงการพิเศษ จำนวน 2.8 ล้านบาท พิจารณาคำขอกู้ โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อการพัฒนาอาชีพสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 5 ปี (พ.ศ. 2563–2567) ของสหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 1.8 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกกู้ยืมเป็นทุนทำการเกษตรแบบผสมผสาน จำนวน 36 ราย ๆ ละ ไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี และพิจารณาคำขอกู้โครงการบริหารจัดการธุรกิจรวบรวมผลไม้ในสถาบันเกษตรกร ประจำปี พ.ศ. 2564 ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.
ระนอง จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมผลไม้ตามฤดูกาลผลิต 2564 จากสมาชิกสหกรณ์ ประกอบด้วย มังคุด ทุเรียนและลองกอง อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี ช่วยเหลือสมาชิกผู้ปลูกผลไม้ของสหกรณ์
เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์เป็นกองทุนที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับสหกรณ์และสมาชิก ช่วยให้สหกรณ์ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก และที่สำคัญเป็นกองทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้ต้นทุนทางธุรกิจของสหกรณ์ลดลงเมื่อเทียบกับเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น ทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายของสมาชิกโดยการลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อสินค้าในราคายุติธรรมจากสหกรณ์ ส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อสิ้นปีทางบัญชีหากสหกรณ์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน สมาชิกก็ได้รับผลประโยชน์ในลักษณะของเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน
เพิ่มเติมอีกด้วย
1.พิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ โครงการปกติ จำนวน 6 ล้านบาท พิจารณาคำขอกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานราชการจังหวัดระนอง จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาทต่อปี และพิจารณาคำขอกู้ของสหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 5 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ได้แก่ ลูกสุกรขุนและอาหารสัตว์ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาทต่อปี
2.พิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ โครงการพิเศษ จำนวน 2.8 ล้านบาท พิจารณาคำขอกู้ โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อการพัฒนาอาชีพสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง 5 ปี (พ.ศ. 2563–2567) ของสหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 1.8 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกกู้ยืมเป็นทุนทำการเกษตรแบบผสมผสาน จำนวน 36 ราย ๆ ละ ไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี และพิจารณาคำขอกู้โครงการบริหารจัดการธุรกิจรวบรวมผลไม้ในสถาบันเกษตรกร ประจำปี พ.ศ. 2564 ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.
ระนอง จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมผลไม้ตามฤดูกาลผลิต 2564 จากสมาชิกสหกรณ์ ประกอบด้วย มังคุด ทุเรียนและลองกอง อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี ช่วยเหลือสมาชิกผู้ปลูกผลไม้ของสหกรณ์
เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์เป็นกองทุนที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับสหกรณ์และสมาชิก ช่วยให้สหกรณ์ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก และที่สำคัญเป็นกองทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้ต้นทุนทางธุรกิจของสหกรณ์ลดลงเมื่อเทียบกับเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น ทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายของสมาชิกโดยการลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อสินค้าในราคายุติธรรมจากสหกรณ์ ส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อสิ้นปีทางบัญชีหากสหกรณ์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน สมาชิกก็ได้รับผลประโยชน์ในลักษณะของเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน
เพิ่มเติมอีกด้วย