จากกรณีที่ Facebook ส่วนตัว ในชื่อ "วราภรณ์ แสงชา" โพสต์ข้อความด่าทอใส่ความ “นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์" ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ได้รับความเสียหาย จากข้อความที่ได้โพสต์ไว้ต่างๆ นานาที่เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ​ และครอบครัว เมื่อเวลา 09.00​ น.วันที่ 30 มี.ค.​64 ที่ห้องทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี​ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นางสาววราภรณ์ แสงชา ตำแหน่งนักจัดการชำนาญการ​ อบต.กุดรัง​ จ.มหาสารคาม​ ได้ขอเข้าพบนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี โดยนำพานชุดธูปเทียนแพเข้าขอขมานายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากที่เกิดความเข้าใจผิดในกรณีดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณต้นเดือนพฤษภาคม 2563 นางสาววราภรณ์ แสงชา ได้เคยโพสต์ข้อความวิชาการในการใช้ระเบียบเกี่ยวกับถุงยังชีพ และมีการด่าทอ มีข้อขัดแย้ง มีการเกิดความเข้าใจผิดหลายประการ รวมทั้งเกิดจากการการปลุกปั่นยุยง ส่งเสริม ของกลุ่มคนที่ไม่หวังดี จนทำให้เกิดกระแสด่าทอ ใส่ความนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในด้านการทำงานด้วยถ้อยคำบางถ้อยคำ ทำให้ท่านผู้ว่าฯได้รับความเสียหาย มีความเข้าใจผิดไปเองหลายประการ ประกอบกับเหตุที่มีบุคคล กลุ่มบุคคล ที่พยายามใช้ความซื่อสัตย์ ความมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ เป็นเครื่องมือ เพื่อไปทำลายชื่อเสียงท่านผู้ว่าฯ พยายามปลุกปั่น ยุยง สร้างความแตกแยก เป็นเหตุให้มีการใส่ร้ายท่านผู้ว่าฯ ต่างๆ นานา จนทำให้เข้าใจผิด และตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มหรือบุคคลดังกล่าว ต่อมาได้การพูดคุยถึงประเด็นปัญหาต่างๆ​ กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงทำให้รับทราบข้อเท็จจริงความเป็นมาของประเด็นปัญหาต่างๆ ทุกประการซึ่งเป็นที่เข้าใจผิดมาโดยตลอด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้ไม่หวังดีต่างๆ เหล่านั้นพยายามปลุกปั่น ยุยงสร้างกระแส โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับพานขอขมาและให้อภัยกับนางสาววราภรณ์ แสงชา ในการกระทำดังกล่าวโดยกล่าวว่า​ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการเข้าใจผิดของนางสาววราภรณ์ แสงชา​ ที่ได้มีการโฟสต์ข้อความลงโซเซียลในเรื่องการทำงานและก้าวล่วงไปถึงเรื่องส่วนตัว แต่หลังจากได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจในเรื่องวิธีการทำงาน แนวทางการทำงาน มีความเข้าใจกับข้อมูลที่ได้รับมาอย่างไม่ถูกต้องจากบุคคลบางคนที่ให้ข้อมูลในทางลบ ทำให้ท่านฯได้รับเสียหาย ท่านผู้ว่าฯ​ และนายกเหล่ากาชาดฯได้ให้อภัยและไม่ติดใจ เพราะเชื่อว่าการให้อภัยเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ทำให้โลกนี้สามารถก้าวต่อไปได้ พร้อมแนะนำแนวการทำงาน ระเบียบ แบบแผนและประสบการณ์ในครั้งนี้ มุมมองบางประการ มาปรับใช้ในการทำงานด้านวิทยากรที่นางสาววราภรณ์ แสงชา ทำอยู่ในปัจจุบันถ่ายทอดความรู้แก่ข้าราชการท้องถิ่นต่อไป