Haute Couture Experience ผู้ประสานงานแบรนด์โอต กูตูร์ เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย จัดนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้คนไทยได้ชื่นชมผลงานของแบรนด์โอต กูตูร์ระดับโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ "ไอริส วาน เฮอร์เพน" (Iris Van Herpen) ถึง 3 ชุด มูลค่าร่วม 10 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในเอเชีย ภายในงานเปิดนิทรรศการได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เกส ราเดอ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน โดยมีเหล่าเซเลบลิตี้ชั้นนำของเมืองไทย ร่วมชมงานด้วย ณ ชั้น 2 บริเวณทางเชื่อมชิดลม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ นอกจากจะส่งตรงผลงานการออกแบบสุดเหนือชั้นของ Iris Van Herpen ถึง 3 ชุด มูลค่าร่วม 10 ล้านบาท จากรันเวย์มาจัดแสดง ไอริส วาน เฮอร์เพน ยังส่งวิดีโอมาทักทายแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน และมีการเปิดตัวแชมเปญ Dom Perignon ที่เรียกได้ว่าเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น เพราะลวดลายบนขวดแชมเปญวินเทจ ปี 2004 นี้ออกแบบโดยไอริส วาน เฮอร์เพน ซึ่งนำแรงบันดาลใจของลวดลายมาจากคอลเลกชัน Metamorphosis เมื่อปี 2014 มาใช้ ก่อนจะปิดท้ายงานด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ด้วยการเผยโฉมภาพของอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ซึ่งได้รับเกียรติให้สวมชุดของไอริส วาน เฮอร์เพน เป็นคนแรกของประเทศไทย
ฯพณฯ เกส ราเดอ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทาง Haute Couture Experience เลือกแบรนด์ของ ไอริส วาน เฮอร์เพน ซึ่งเป็นโอต กูตูร์จากเนเธอร์แลนด์มาจัดแสดงเป็นแบรนด์แรก ไอริส วาน เฮอร์เพน ถือเป็นดีไซเนอร์หัวสมัยใหม่ ที่สามารถรังสรรค์ผลงานได้อย่างมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นด้วยการผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ากับผลงาน จนทำให้ผลงานชุด 3 มิติของเธอได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่ง 1 ใน 50 นวัตกรรมแห่งปี จาก นิตยสารไทม์ ในปี 2554
ไชยภาพ อัญญานุภาพ และ วิภาพร จิระพัฒน์พิศาล กรรมการบริหาร Haute Couture Experience กล่าวถึงที่มาของการจัดงานนิทรรศการในครั้งนี้ว่า เกิดจากแพสชั่นที่ชื่นชอบในผลงานโอต กูตูร์ และอยากแบ่งปันประสบการณ์นี้ให้คนไทยได้สัมผัส และ รู้สึกว่า โอตกูตูร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
“โดยส่วนตัวเป็นลูกค้าแบรนด์โอตกูตูร์อยู่แล้ว แต่พอเกิดวิกฤติโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปตัดชุดหรือชมผลงานโอตกูตูร์ได้ เลยเกิดไอเดียว่าน่าจะนำผลงานศิลปะที่ชื่นชอบเข้ามาจัดแสดง โดยเหตุผลที่เลือกนำผลงานของ ไอริส วาน เฮอร์เพน เข้ามา เพราะมองว่าเป็นดีไซเนอร์ที่มีแพสชั่นในการรังสรรค์ชิ้นงาน ที่ไปไกลกว่าคำว่าแฟชั่น แต่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่าง 3D printing และ Laser-Cut มาผสมผสานในการทำชุดแฟชั่นชั้นสูงตามแบบฉบับโอตกูตูร์ รวมถึงเคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น อดีตวิศวกร NASA ศาสตราจารย์ชื่อดัง ไปจนถึงหน่วยงานองค์กรนิวเคลียร์ปรมาณู เพื่อรังสรรค์ผลงานได้อย่างน่าสนใจ"
ผู้บริหาร Haute Couture Experience ยังเสริมด้วยว่า ความพิเศษของนิทรรศการครั้งนี้ คือ นอกจากคนไทยจะได้มาสัมผัสผลงานจริงของแบรนด์ไอริส วาน เฮอร์เพนอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ผลงาน คอลเลกชันผ้าพันคอ Ready-to-wear ของไอริส วาน เฮอร์เพน ที่นำมาจำหน่ายเป็นครั้งแรกภายในงานยังถูกถ่ายทอดให้เห็นถึงความพริ้วไหวสวยงามของลวดลายการออกแบบให้คล้ายรูปทรงปลากัดของไทย ซึ่งได้ วิศรุต อังคทะวานิช ช่างภาพไทยชื่อดังระดับโลก เจ้าของผลงาน “ปลากัด” ซึ่ง Apple นำมาใช้โปรโมทตอนเปิดตัวขายไอโฟน 6s มาเป็นผู้ลั่นชัตเตอร์ เพื่อถ่ายทอดผลงานให้ออกมาราวกับมีชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับจุดเด่นของแบรนด์ไอริส วาน เฮอร์เพน ที่ออกแบบเสื้อผ้าให้ราวกับสามารถเคลื่อนไหวได้
"เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นตัวกลางในการพาสองอาร์ตติสต์จากต่างแขนงมาร่วมสร้างผลงานดี ๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งไอริส วาน เฮอร์เพนเองก็รู้จัก และชื่นชมผลงานของคุณวิศรุตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนในอนาคต เรายังมีแผนจะนำแบรนด์โอต กูตูร์ ที่มีอัตลักษณ์ จากประเทศชั้นนำต่าง ๆมาให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสแน่นอน แต่จะเป็นแบรนด์ไหนต้องรอติดตามกัน"
ด้าน จันทมน แย้มพันธุ์ เซเลบคนดัง ที่เคยมีประสบการณ์ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ระดับโอตกูตูร์มาหลายครั้ง สมัยที่ทำงานเป็นสื่อมวลชนอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า "ติดตามผลงานของไอริส วาน เฮอร์เพนมาตลอด เพราะรู้สึกว่าแตกต่างจากแบรนด์โอต กูตูร์อื่น ๆ ที่เน้นเรื่องงานฝีมือ ความเป็นคราฟแมนชิฟ แต่ผลงานของ Iris Van Herpen ฉีกกรอบ ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มีแค่ผ้า แต่มีการใช้วัสดุที่หลากหลาย มาผสานกับการออกแบบที่เหนือชั้น ทำให้ผลงานที่ออกมาเป็นมากกว่าแฟชั่น แต่ราวกับเป็นผลงานศิลปะ
“ด้วยพื้นฐานของไอริส วาน เฮอร์เพนเป็นนักบัลเลต์ที่มีแพสชั่นในการทำเสื้อผ้า ทำให้ผลงานของเขาโดดเด่นราวกับชุดสามารถเคลื่อนไหวได้ ทุกครั้งที่เห็นผลงานของเขา รู้สึกว่าไม่ใช่แค่งานแฟชั่น แต่มีความเป็นศิลปะราวกับเป็นอาร์ตพีช ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งการที่ได้เห็นนิทรรศการของไอริส วาน เฮอร์เพนในเมืองไทย เป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ ดีใจที่คนไทยจะได้มีโอกาสชมงานโอต กูตูร์ระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องตีตั๋วบินไปต่างประเทศ”
นิทรรศการครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบ Pop-up Store บริเวณชั้น 2 ทางเชื่อมเซ็นทรัลชิดลม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันนี้ ถึง – 16 พฤษภาคม 2564 นี้ สามารถเข้าชมได้ฟรีโดยไม่ต้องซื้อสินค้า หรือบริการแต่อย่างใด
สำหรับไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ นอกจากจะส่งตรงผลงานการออกแบบสุดเหนือชั้นของ Iris Van Herpen ถึง 3 ชุด มูลค่าร่วม 10 ล้านบาท จากรันเวย์มาจัดแสดง ไอริส วาน เฮอร์เพน ยังส่งวิดีโอมาทักทายแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน และมีการเปิดตัวแชมเปญ Dom Perignon ที่เรียกได้ว่าเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น เพราะลวดลายบนขวดแชมเปญวินเทจ ปี 2004 นี้ออกแบบโดยไอริส วาน เฮอร์เพน ซึ่งนำแรงบันดาลใจของลวดลายมาจากคอลเลกชัน Metamorphosis เมื่อปี 2014 มาใช้ ก่อนจะปิดท้ายงานด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ด้วยการเผยโฉมภาพของอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ซึ่งได้รับเกียรติให้สวมชุดของไอริส วาน เฮอร์เพน เป็นคนแรกของประเทศไทย
ฯพณฯ เกส ราเดอ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทาง Haute Couture Experience เลือกแบรนด์ของ ไอริส วาน เฮอร์เพน ซึ่งเป็นโอต กูตูร์จากเนเธอร์แลนด์มาจัดแสดงเป็นแบรนด์แรก ไอริส วาน เฮอร์เพน ถือเป็นดีไซเนอร์หัวสมัยใหม่ ที่สามารถรังสรรค์ผลงานได้อย่างมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นด้วยการผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ากับผลงาน จนทำให้ผลงานชุด 3 มิติของเธอได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่ง 1 ใน 50 นวัตกรรมแห่งปี จาก นิตยสารไทม์ ในปี 2554
ไชยภาพ อัญญานุภาพ และ วิภาพร จิระพัฒน์พิศาล กรรมการบริหาร Haute Couture Experience กล่าวถึงที่มาของการจัดงานนิทรรศการในครั้งนี้ว่า เกิดจากแพสชั่นที่ชื่นชอบในผลงานโอต กูตูร์ และอยากแบ่งปันประสบการณ์นี้ให้คนไทยได้สัมผัส และ รู้สึกว่า โอตกูตูร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
“โดยส่วนตัวเป็นลูกค้าแบรนด์โอตกูตูร์อยู่แล้ว แต่พอเกิดวิกฤติโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปตัดชุดหรือชมผลงานโอตกูตูร์ได้ เลยเกิดไอเดียว่าน่าจะนำผลงานศิลปะที่ชื่นชอบเข้ามาจัดแสดง โดยเหตุผลที่เลือกนำผลงานของ ไอริส วาน เฮอร์เพน เข้ามา เพราะมองว่าเป็นดีไซเนอร์ที่มีแพสชั่นในการรังสรรค์ชิ้นงาน ที่ไปไกลกว่าคำว่าแฟชั่น แต่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่าง 3D printing และ Laser-Cut มาผสมผสานในการทำชุดแฟชั่นชั้นสูงตามแบบฉบับโอตกูตูร์ รวมถึงเคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น อดีตวิศวกร NASA ศาสตราจารย์ชื่อดัง ไปจนถึงหน่วยงานองค์กรนิวเคลียร์ปรมาณู เพื่อรังสรรค์ผลงานได้อย่างน่าสนใจ"
ผู้บริหาร Haute Couture Experience ยังเสริมด้วยว่า ความพิเศษของนิทรรศการครั้งนี้ คือ นอกจากคนไทยจะได้มาสัมผัสผลงานจริงของแบรนด์ไอริส วาน เฮอร์เพนอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ผลงาน คอลเลกชันผ้าพันคอ Ready-to-wear ของไอริส วาน เฮอร์เพน ที่นำมาจำหน่ายเป็นครั้งแรกภายในงานยังถูกถ่ายทอดให้เห็นถึงความพริ้วไหวสวยงามของลวดลายการออกแบบให้คล้ายรูปทรงปลากัดของไทย ซึ่งได้ วิศรุต อังคทะวานิช ช่างภาพไทยชื่อดังระดับโลก เจ้าของผลงาน “ปลากัด” ซึ่ง Apple นำมาใช้โปรโมทตอนเปิดตัวขายไอโฟน 6s มาเป็นผู้ลั่นชัตเตอร์ เพื่อถ่ายทอดผลงานให้ออกมาราวกับมีชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับจุดเด่นของแบรนด์ไอริส วาน เฮอร์เพน ที่ออกแบบเสื้อผ้าให้ราวกับสามารถเคลื่อนไหวได้
"เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นตัวกลางในการพาสองอาร์ตติสต์จากต่างแขนงมาร่วมสร้างผลงานดี ๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งไอริส วาน เฮอร์เพนเองก็รู้จัก และชื่นชมผลงานของคุณวิศรุตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนในอนาคต เรายังมีแผนจะนำแบรนด์โอต กูตูร์ ที่มีอัตลักษณ์ จากประเทศชั้นนำต่าง ๆมาให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสแน่นอน แต่จะเป็นแบรนด์ไหนต้องรอติดตามกัน"
ด้าน จันทมน แย้มพันธุ์ เซเลบคนดัง ที่เคยมีประสบการณ์ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ระดับโอตกูตูร์มาหลายครั้ง สมัยที่ทำงานเป็นสื่อมวลชนอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า "ติดตามผลงานของไอริส วาน เฮอร์เพนมาตลอด เพราะรู้สึกว่าแตกต่างจากแบรนด์โอต กูตูร์อื่น ๆ ที่เน้นเรื่องงานฝีมือ ความเป็นคราฟแมนชิฟ แต่ผลงานของ Iris Van Herpen ฉีกกรอบ ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มีแค่ผ้า แต่มีการใช้วัสดุที่หลากหลาย มาผสานกับการออกแบบที่เหนือชั้น ทำให้ผลงานที่ออกมาเป็นมากกว่าแฟชั่น แต่ราวกับเป็นผลงานศิลปะ
“ด้วยพื้นฐานของไอริส วาน เฮอร์เพนเป็นนักบัลเลต์ที่มีแพสชั่นในการทำเสื้อผ้า ทำให้ผลงานของเขาโดดเด่นราวกับชุดสามารถเคลื่อนไหวได้ ทุกครั้งที่เห็นผลงานของเขา รู้สึกว่าไม่ใช่แค่งานแฟชั่น แต่มีความเป็นศิลปะราวกับเป็นอาร์ตพีช ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งการที่ได้เห็นนิทรรศการของไอริส วาน เฮอร์เพนในเมืองไทย เป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ ดีใจที่คนไทยจะได้มีโอกาสชมงานโอต กูตูร์ระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องตีตั๋วบินไปต่างประเทศ”
นิทรรศการครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบ Pop-up Store บริเวณชั้น 2 ทางเชื่อมเซ็นทรัลชิดลม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันนี้ ถึง – 16 พฤษภาคม 2564 นี้ สามารถเข้าชมได้ฟรีโดยไม่ต้องซื้อสินค้า หรือบริการแต่อย่างใด