เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายวสันต์ บุญเกิด ประธานคณะอนุกรรมการด้านน้ำและระบบนิเวศในนาข้าว เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านน้ำและระบบนิเวศในนาข้าว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมีดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ดร.วัชระ เสือดี รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน นายธีระพล ตั๊งสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 300 ชั้น 3 อาคารศูนย์วิศวกรรมชลประทาน กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ
ปี 2563 ที่ผ่านมา การดำเนินงานที่โดดเด่นของ INWEPF Thai ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ โดยมี ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ปัจจุบันเป็นรองประธานของ INWEPF Thai ร่วมเสวนาให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการน้ำในภาวะน้ำน้อย ในหัวข้อการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นการจัดการประชุมภายหลังการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านน้ำและระบบนิเวศในนาข้าว เพื่อดำเนินการของเครือข่ายนานาชาติด้านน้ำและระบบนิเวศในนาข้าว (International Networks for Water and Ecosystem in Paddy Fields : INWEPF) เพื่อให้ดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน
สำหรับปีงบประมาณ 2564 นี้ INWEPF Thai มีแผนที่จะดำเนินการวิจัยเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อผลผลิตข้าวที่ต่างกันออกไป รวมทั้งหากสถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นจะร่วมเวทีการประชุมกับประเทศสมาชิกเพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียน และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือการขับเคลื่อน Thai rice NAMA คือ โครงการการปลูกข้าวตามแนวทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยหรือโครงการข้าวไทย NAMA ซึ่ง INWEPF Thai จะผลักดันการทำนาแบบเปียกสลับแห้งร่วมกันทุกภาคส่วน ซึ่งต้องมีการศึกษาวิจัยไปพร้อมกันเพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เพื่อให้สามารถทำได้จริง เพิ่มผลผลิตได้จริง จึงจะสามารถเปลี่ยนวิธีการทำนาแบบเดิมของเกษตรกรได้
ทั้งนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า กรมชลประทานมีแผนงานที่เตรียมพร้อมสนับสนุนสำหรับการทำนาแบบเปียกสลับแห้งอยู่แล้ว และที่ผ่านมามีพื้นที่นำร่องทางภาคกลางของประเทศไทย 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี อยุธยา และสุพรรณบุรี และยินดีที่จะส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชาติและระดับภูมิภาคต่อไปเพื่อสามารถลดการใช้ทรัพยากรน้ำและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
สำหรับปีงบประมาณ 2564 นี้ INWEPF Thai มีแผนที่จะดำเนินการวิจัยเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อผลผลิตข้าวที่ต่างกันออกไป รวมทั้งหากสถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นจะร่วมเวทีการประชุมกับประเทศสมาชิกเพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียน และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือการขับเคลื่อน Thai rice NAMA คือ โครงการการปลูกข้าวตามแนวทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยหรือโครงการข้าวไทย NAMA ซึ่ง INWEPF Thai จะผลักดันการทำนาแบบเปียกสลับแห้งร่วมกันทุกภาคส่วน ซึ่งต้องมีการศึกษาวิจัยไปพร้อมกันเพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เพื่อให้สามารถทำได้จริง เพิ่มผลผลิตได้จริง จึงจะสามารถเปลี่ยนวิธีการทำนาแบบเดิมของเกษตรกรได้
ทั้งนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า กรมชลประทานมีแผนงานที่เตรียมพร้อมสนับสนุนสำหรับการทำนาแบบเปียกสลับแห้งอยู่แล้ว และที่ผ่านมามีพื้นที่นำร่องทางภาคกลางของประเทศไทย 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี อยุธยา และสุพรรณบุรี และยินดีที่จะส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชาติและระดับภูมิภาคต่อไปเพื่อสามารถลดการใช้ทรัพยากรน้ำและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้