เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้อนุมัติ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ.2563-2565 ภายใต้วิสัยทัศน์ "รัฐบาลดิจิทัล เปิดเผย เชื่อมโยง และร่วมกันสร้างบริการที่มีคุณค่าให้ประชาชน" โดยให้ความสำคัญ 6 ประเด็น ได้แก่ การศึกษา สุขภาพและการแพทย์ การเกษตร ความเหลื่อมล้ำทางสิทธิสวัสดิการประชาชน การมีส่วนร่วม โปร่งใสและตรวจสอบได้ของประชาชน และการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการและสวัสดิการของประชาชน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย การทำงานของภาครัฐมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้ง ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและกำหนดนโยบายสำคัญของประเทศ
ทั้งนี้ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ในกรอบงบประมาณ 6,504.69 ล้านบาท ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ยุทธศาสตร์ที่ 2 อำนวยความสะดวกภาคธุรกิจไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ยุทธศาสตร์ที่ 3 ผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐในทุกกระบวนการทำงานของภาครัฐ และยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล โดยโครงการสำคัญ อาทิ การพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกษตรกร ระบบรับคำขออนุญาตเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ การพัฒนาศูนย์กลางการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ การพัฒนาระบบรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านช่องทางดิจิทัล รวมทั้งการปรับปรุงหรือแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายของรัฐ
โฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยมีความก้าวหน้า หน่วยงานต่างๆ ได้ลดจำนวนเอกสารที่ต้องยื่นประกอบการพิจารณาใบอนุญาต ปรับกระบวนงานและการให้บริการให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) และพัฒนาแพลตฟอร์ม (e-Government) เข้ามาช่วยในการบริหารงานระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐบาลของรัฐอื่น (Government to Government :G2G) รัฐบาลและองค์กรธุรกิจ (Government to Business : G2B) รัฐบาลและประชาชน (Government to Citizen: G2C) เพื่อรองรับกิจกรรมและธุรกรรมระหว่างภาครัฐ เอกชนและประชาชน พร้อมเร่งพัฒนาปัจจัยพื้นฐานของสถาปัตยกรรมรัฐบาลดิจิทัล อาทิ การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับบุคลากรภาครัฐ การจัดทำนโยบาย กฎหมายและกฎระเบียบ รวมทั้งการจัดทำมาตรฐาน (Standard) เพื่อขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการไปสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ