ขึ้นตรง"รัฐมนตรี" งานคล่องตัว ตรวจสอบทันที "ผู้อำนวยการ"มีอำนาจเบ็ดเสร็จ-รับผิดชอบเชิงธรรมาภิบาล วันที่ 5 ก.ย.59 ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้า ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สกสค. ซึ่งมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการพิจารณาการปรับปรุง พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ให้มีความชัดเจน โดยเห็นว่าควรมีการแยกหน่วยงาน สกสค., องค์การค้าของ สกสค. และคุรุสภา ออกจาก พ.ร.บ.สภาครูฯ เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล โดย รมว.ศึกษาธิการ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการให้องค์การค้าฯ มีสถานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งจะทำให้การบริหารงานคล่องตัว มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะปัจจุบันองค์การค้าฯ เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของ สกสค. การจะดำเนินการใด ๆ ต้องได้รับการมอบหมายหรือความเห็นชอบจาก สกสค.ก่อน ดร.สุเทพ กล่าวต่อว่า รมว.ศึกษาธิการ มีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาองค์การค้าฯ ให้เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ และเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการรักษา ควบคุม ระดับราคากลางของหนังสือเรียน สื่อการเรียนการสอน รวมถึงการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาของประเทศ ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่าองค์การค้าฯ ควรจะมีสถานะเป็นนิติบุคคล อยู่ในกำกับของ รมว.ศึกษาธิการ โดยตรง เพื่อให้สามารถสั่งการ ตรวจสอบได้ทันทีโดยไม่ต้องสั่งผ่าน สกสค. ขณะเดียวกัน ผอ.องค์การค้าฯ ก็จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งในเชิงการบริหารงาน การพิจารณา สั่งการ หรือดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความรับผิดชอบในเชิงธรรมาภิบาล ไม่ใช่แค่ทำให้การบริหารงานคล่องตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ในเชิงการศึกษาของชาติ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน ประชาชนอีกด้วย