อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
“คลองสุเอซ”
ผู้ที่จุดประกายเรื่องคลองสุเอซคือจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เมื่อครั้งที่กองทัพของนโปเลียน โบนาปาร์ตบุกยึดดินแดนออตโตมัน ซึ่งประกอบไปด้วยอียิปต์และซีเรีย เมื่อ ค.ศ. 1798–1801 เพื่อกันท่าและลดอิทธิพลของจักรวรรดิอังกฤษให้ไม่สามรถเข้าถึงพื้นที่บริติชอินเดียได้สะดวก
ทั้งนี้ไกรฤกษ์ นานา ได้ให้รายละเอียดของประวัติศาสตร์ช่วงนี่ไว้ว่า ความฝันของโปเลียนที่ 1 ต้องดับวูบลงเพราะมีอุปสรรคเฉพาะหน้าขวางทางอยู่ คือ
1. ระดับน้ำในทะเลแดงสูงกว่าระดับน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถึง 10 เมตร และต้องใช้เวลาหาทางแก้ปัญหาอีกนาน
2. จะต้องใช้งบประมาณมหาศาลเกินกว่าที่จำเป็นในการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์กั้นน้ำไม่ให้ทะลักเข้ามายังทะเลฝั่งยุโรป ถ้าผิดพลาดก็จะเกิดความหายนะอย่างมิอาจประเมินค่าได้
3. เกิดสงครามนโปเลียน (ค.ศ. 1804-14) เสียก่อน จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำให้โครงการคลองสุเอซมีอันต้องระงับไปชั่วคราว
หลังจากรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 อันยิ่งใหญ่ ฝรั่งเศสก็ถดถอยจนเกิดปฏิวัติฝรั่งเศส ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐ แต่แล้วในเวลาไม่นานก็ถูกหลานลุงของโปเลียนที่ 1 ปฏิวัติกลับมาปกครองแบบราชอาณาจักรอีกครั้ง
ในรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ได้ทรงพยายามเดิมตามรอยเท้าแห่งความยิ่งใหญ่ของพระราชปิตุลา (จักรพรรดินโปเลียนที่ 1) ในทุกๆ ด้าน โดยพระองค์ขยายพระราชอำนาจสร้างอาณานิคมไปทั่วโลก ทำให้ฝรั่งเศสกลับมามีอิทธิพลทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ และมีรายได้มหาศาลจากอาณานิคม
พระองค์จึงกลับมาการปัดฝุ่นโครงสร้างสร้างคลองสุเอซขึ้นมาใหม่ เพื่อจะได้สร้างอิทธิพลครอบคุมการเดินทางและขนส่ง ที่จะปฏิวัติเส้นทางเดินเรือไปตลอดกาล
และครั้งนี้โชคก็เข้าข้างนโปเลียนที่ 3 เพราะพระองค์มีราชทูตฝรั่งเศสประจำอียิปต์ ซึ่งเป็นพระสหายสนิทของเจ้าผู้ครองนครอียิปต์เป็นคอนเน็กชั่นในการเปิดทางสะดวกให้กับโครงการสร้างคลองสุเอซ
โครงการสร้างคลองสุเอซได้เริ่มต้นขุดคลองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1859 (พ.ศ. 2402) โดยเริ่มขุดจากเมืองท่า Port Said บนฝั่งทะเลด้านเอเชียก่อน โดยมีปลายทางอยู่ที่เมืองท่า Port Tawfik ซึ่งไปบรรจบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของยุโรป
คลองสุเอซใช้เวลาขุดทั้งสิ้น 10 ปีจึงแล้วเสร็จ โดยมีความยาว 62.25 กิโลเมตร กว้าง 205 เมตร ลึก 24 เมตร
คลองสุเอซช่วยย่นระยะทางและเวลาในการเดินทางของทางน้ำอย่างมาก ทำให้เศรษฐกิจของโลกเจริญรุดหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยังคงเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบันและอนาคตไปตลอดกาล
............................................................................
“คอคอดกระ”
หลังจากฝรั่งเศสขุดคลองสุเอซได้สำเร็จ อังกฤษก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดยมีการเริ่มสร้างกระแสเพื่อจะสร้างโครงการขุดคอคอดกระในเมืองไทย มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แต่กว่าจะมีโอกาสเข้ามาถวายคำปรึกษาก็ล่วงถึงรัชสมัยของในหลวงรัชการที่ 4 แต่พระองค์ก็ไม่ทรงแน่พระราชหฤทัยถึงความมุ่งหมายที่แท้จริงของอังกฤษจึงมิได้ตัดสินพระราชหฤทัย
ผ่านมาถึงรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสก็ประสบความสำเร็จในการโน้นให้รัฐบาลไทยสนใจโครงการขุดคอคอดกระจนได้
แต่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ก็มิได้ทรงผลีผลามอนุมัติโครงการ แต่ทรงสร้างเงื่อนไขให้ฝรั่งเศสทำการสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดก่อนว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร โดยพระราชดำรัสว่า...
“ขอตรวจให้รู้ก่อนว่า ควรจะอนุญาตแล้วจึงจะอนุญาตเหมือนกัน เพราะที่เหล่านี้เป็นที่มีบ่อแร่เป็นต้น และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ของแผ่นดินและของราษฎรอย่างไรบ้าง เราต้องรู้ก่อนที่จะตกลง”
หลังจากนั้นจึงเกิดเป็นแผนที่การสำรวจคอคอดกระของนายเดอลองก์ฉบับ ค.ศ. 1881 ภายใต้พระบรมราชานุญาตของรัชกาลที่ 5
โดยพระองค์ได้ขอกับทางฝรั่งเศสให้มีผู้เชี่ยวชาญฝ่ายไทยเข้าร่วมขบวนสำรวจด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ไทยส่งไปทำงานกับฝรั่งเศสคือคนอังกฤษ ทำให้แผนการลับลวงพรางของฝรั่งเศสไม่ประสบความสำเร็จ
และแล้วหลังจากในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงอนุญาตให้ฝรั่งเศสเริ่มโครงการสำรวจเพื่อจะขุดคอคอดกระได้ไม่นาน ก็ทรงให้ยกเลิกโครงการอย่างกระทันหัน
ซึ่งเรื่องการที่ทรงอนุญาตโครงการขุดคอคอดกระ และทรงให้ระงับอย่างกระทันหันนั้นมีเหตุปัจจัยใดยังคงเป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้คือ โครงการขุดคอคอดกระนั้นมิใช่ความต้องการของรัฐบาลไทย แต่เป็นความต้องการของชาติมหาอำนาจจากตะวันตก ที่มีปัจจัยด้านผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
และนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า เหตุผลที่ทรงระงับโครงการนั้นคือ ไม่ว่าฝรั่งเศสหรืออังกฤษได้สัมปทาน
ขุดคอคอดกระ ก็จะทำให้ไทยต้องเสียดินแดนทางภาคใต้และแหลมมลายู ไปอย่างแน่นอน
เมื่อโครงการขุดคอคอดกระถูกยกเลิกอย่างกะทันหันทำให้ฝรั่งเศสเสียหน้าอย่างมาก พร้อมๆ กับโครงการขุดคลองปานามาที่ฝรั่งเศสต้องถอนตัวออกมานั้นผสมสร้างความปวดร้าวฝรั่งเศสอย่างหนัก
ที่มา: ไกรฤกษ์ นานา ศิลปวัฒนธรรม
............................................................................
คลองสุเอซและคลองปานามา คือช่องทางที่ถูกขุดเจาะด้วยเทคโนโลยีเพื่อสร้างเส้นทางเดินเรือและโลจิสติกส์ที่สำคัญที่ย่อการเดินทางจากโลกตะวันออกสู่โลกตะวันตกให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้เกิดการขยายตัวทางการค้าระดับนานาชาติ
คอคอดกระ ก็เคยเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยย่อเส้นทางเดินเรือของโลก เพราะเส้นทางเดิมเรือที่ต้องผ่านช่องแคบมะละกานั้นมีมานานกว่า ๕๐๐ ปี และปัจจุบันแน่นขนัดไปด้วยเรือสินค้าและเวลาเดินทางที่เยิ่นเย้ออ้อมคาบสมุทรมลายู
ซึ่งถ้าคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจ คอคอดกระ ก็จะเป็นคำตอบที่จะส่งเสริมให้เศรษฐกิจของทั้งไทยและนานาชาติ รุ่งเรืองและเฟื่องฟู
แต่ในแง่ของประเทศไทยผู้เป็นเจ้าของพื้นที่แล้ว ปัญหาด้านความมั่นคง คือปัญหาหนักอกที่ทำให้รัฐบาลไทยไม่กล้าตัดสินใจในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเมื่อร้อยกว่าปีก่อนหรือรัฐบาลในปัจจุบัน
............................................................................
อัษฎางค์ ยมนาค
รวบรวม เรียน