“โควิดไทย”ติดเชื้อเพิ่ม 39 ราย กทม.พบ “คลัสเตอร์ตลาดสะพานสูง” 7ราย รวมยอดป่วยสะสม 28,773 ราย “ศบค.”ขอปชช.ใช้ชีวิตตามปกติ อย่ามีอคติกับคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ย้ำทุกคนยังเดินทางข้ามพื้นที่ได้ “หมอเบิร์ท” ยันรัฐไม่ห้ามเอกชนซื้อวัคซีน ย้ำต้องผ่าน“อย.” จ่อถกกระจายฉีดกลุ่มเสี่ยง-เอกชน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 39 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 28 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 11 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 28,773 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 94 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 74 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหาย 27,313 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,366 ราย ทั้งนี้ผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย มาจากกทม.มากที่สุด 15 ราย โดยเป็นการติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ในตลาดสดสะพานสูง พื้นที่เขตสะพานสูง กทม.7ราย จ.สมุทรสาคร 10 รายและจังหวัดอื่นๆ 3 ราย “ขอฝากเน้นย้ำว่าเมื่อมีการติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดหรือชุมชน สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเสมอคือ เรื่องอคติ เนื่องจากหลายคนมีความรู้สึกว่าหากมีคนมาจากพื้นที่เสี่ยงมาอยู่แถวบ้านเราก็กลัวว่าไข่จะแตก จนอาจเกินเลยเป็นความรู้สึกตั้งข้อรังเกียจ มีอคติ เราไม่อยากเห็นคนที่เกิดความกังวลกันจนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมประจำวันได้ การเดินทางข้ามพื้นที่ทุกคนยังทำได้ เพียงแต่ขอร้องว่าให้ติดตามมาตรการ และพยายามให้ความร่วมมืออย่างเข้มงวด เพราะไม่ต้องการเห็นคนจากพื้นที่เสี่ยง เข้าไปในพื้นที่แล้วต้องมี อสม. ที่จะต้องไปเฝ้าหน้าบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย” พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงที่กรณีโรงพยาบาลเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนได้หรือไม่ว่า ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ห้าม แต่เน้นเรื่องของความปลอดภัย เพราะวัคซีนเป็นการอนุญาตใช้ในภาวะฉุกเฉิน ผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก(WHO) และสิ่งที่รัฐบาลย้ำคือจะต้องได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) กระ ทรวงสาธารณสุข และที่ผ่านมาวัคซีนทั่วโลกถือว่ามีการผลิตอย่างจำกัด และมีการเฝ้าระวัง ดูเรื่องความปลอดภัย จะต้องมีการเก็บข้อมูลการวิจัย และส่วนหนึ่งวัคซีน ที่ผลิตได้อาจจะได้รับการจัดสรรไปทางประเทศ แทบอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก จึงทำให้ภาคเอกชนอาจจะไปหาซื้อวัคซีนเอง ซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่จากนี้ต่อไป หลังจากการผลิตมีมากขึ้นจะได้เริ่มเห็นวัคซีนหลายบริษัทที่มีรายงานว่าผ่านอย. ซึ่งเมื่อมีวัคซีนมากขึ้นการกระจายไปที่เอกชนก็อาจจะเป็นไปได้ “ ทาง ศบค. ชุดเล็กได้หารือกันในวันนี้ร่วมกับทางสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม ได้นำเรื่องการกระจายวัคซีนในภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรมนำเสนอศบค. ชุดเล็ก โดยศบค.จะหารือในสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องติดตามกัน รวมไปถึงมาตรการการผ่อนคลายที่ในสัปดาห์นี้จะมีการหารือกับทุกภาคส่วน”