ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด วันนี้(27 มี.ค.64)นายอาคม ภูติภัตร ประธานวิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจังหวัดตราด,นายสำเริง จันทร์หอม ประธานอสม.ตำบลหนองเสม็ด,นายวศิน พงษ์ศิริ ที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจฯ พร้อมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ดพร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และผู้สังเกตุการณ์อย่างนายสุรศักดิ์ อินทรประเสริฐ นายกอบต.ไม้รูด เดินทางมาชมโรงปลูกและผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์(แบบกรีนเฮาส์ขนาดเล็ก) ซึ่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ด และวิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจังหวัดตราดริเริ่มโครงการปลูกกัญชาเพื่อสุขภาพ
โดยที่โรงปลูกและผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์(แบบกรีนเฮาส์ขนาดเล็ก)ได้ทำการก่อสร้างโรงปลูกแบบแน่นหนา แข็งแรง มีการลวดหนามขึงกั้นโรงปลูกโดยรอบเพื่อป้องกันการขโมยต้นกัญชาระหว่างการปลูก พร้อมทำประตู 2 ชั้น และมีกุญแจคุมประตูทางเข้าด้วย โดยภายในอาคารปลูกจะปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาว มีขนาดประมาณ 4 คูณ 12 เมตร ที่สามารถปลูกกัญชาได้ 50 ต้น และจะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 150-160 วันหรือ 5 เดือนจะสามารถเก็บเกี่ยวได้
นายอาคม กล่าวว่า ทางวิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจังหวัดตราดมองเห็นความสำคัญของกัญชาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์จึงได้หารือกับนายวศิน พงษ์ศิริ ที่เป็นทีทปรึกษาของกลุ่มดำเนินการขออนุญาติจากกรมการแพทย์แผนไทยในการตั้งโรงปลูกกัญชาขึ้น โดยการควบคุมดูแลของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ดที่ได้ให้ใช้พื้นที่และดูแลควบคุมการปลูกและการใช้ โดยที่พันธุ์กัญหาจะได้รับจากกรมการแพทย์แผนไทย โดยต้องมีการทำMOUกันไว้ในเรื่องการนำยอดและดอกคืนให้กับกรมการแพทย์แผนไทย ส่วนลำต้น ใบ รากก็เป็นส่วนที่วิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจ.ตราดจะนำไปหาประโยชน์จากการขายผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ ทางวิสาหกินฯอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอพันธ์กัญชามาปลูกในเร็วๆนี้
นายวศิน กล่าวว่า โครงการนี้ ได้รับการประสานงานจากวิสาหกิจฯที่มีความตั้งใจในการปลูกกัญชาเชิงการแพทย์ จึงได้ทำโครงการปลูก และขออนุญาตซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการแพทย์แผนไทยด้วยดี แต่ต้องการทำข้อตกลงหรือMOUในเรื่องการปลูกว่า เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจะต้องนำดอกและยอดส่งมอบให้กับกรมการแพทย์แผนไทย เพราะในส่วนยอดและดอกยังเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ส่วนราก ใบ หรือ ลำต้นสามารถนำไปหาประโยชน์ หรือจำหน่ายให้กับผู้สนใจทั่วไปได้ แต่ต้องมีการทำเอกสารซื้อขายอย่างถูกต้องเพื่อควบคุมด้วย โดยกรมการแพทย์แผนไทยจะอนุญาตให้ปลูกปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ต้น โดยจะได้เมล็ดพันธุ์จากกรมการแพทย์แผนไทยมาปลูก ซึ่งประมาณ 150 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งหากสามารถปลูกและได้ผลผลิตแล้วจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของจ.ตราดมาก
นายวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการครั้งนี้ ถือว่าเป็นนโยบายรัฐบาลซึ่งขณะนี้ดำเนินการในระยะที่ 2 ที่วิสาหกิจชุมชนสามารถขออนุญาตได้ แต่ต้องได้รับการควบคุมตามที่กรมการแพทย์แผนไทยได้กำหนดไว้ แต่ในระยะที่ 3 สมาชิกในวิสาหกิจสามารถทำการแยกพันธ์ุต้นกัญชาไปปลูกในบ้านของตัวเองได้ครอบครัวละ 6 ต้น และนำมาจำหน่วยให้วิสาหกิจที่จะสามารถให้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ทางการแพทย์และใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและครัวเรือนจำนวนมาก
โดยที่โรงปลูกและผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์(แบบกรีนเฮาส์ขนาดเล็ก)ได้ทำการก่อสร้างโรงปลูกแบบแน่นหนา แข็งแรง มีการลวดหนามขึงกั้นโรงปลูกโดยรอบเพื่อป้องกันการขโมยต้นกัญชาระหว่างการปลูก พร้อมทำประตู 2 ชั้น และมีกุญแจคุมประตูทางเข้าด้วย โดยภายในอาคารปลูกจะปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาว มีขนาดประมาณ 4 คูณ 12 เมตร ที่สามารถปลูกกัญชาได้ 50 ต้น และจะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 150-160 วันหรือ 5 เดือนจะสามารถเก็บเกี่ยวได้
นายอาคม กล่าวว่า ทางวิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจังหวัดตราดมองเห็นความสำคัญของกัญชาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์จึงได้หารือกับนายวศิน พงษ์ศิริ ที่เป็นทีทปรึกษาของกลุ่มดำเนินการขออนุญาติจากกรมการแพทย์แผนไทยในการตั้งโรงปลูกกัญชาขึ้น โดยการควบคุมดูแลของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเสม็ดที่ได้ให้ใช้พื้นที่และดูแลควบคุมการปลูกและการใช้ โดยที่พันธุ์กัญหาจะได้รับจากกรมการแพทย์แผนไทย โดยต้องมีการทำMOUกันไว้ในเรื่องการนำยอดและดอกคืนให้กับกรมการแพทย์แผนไทย ส่วนลำต้น ใบ รากก็เป็นส่วนที่วิสาหกิจเกษตรปลอดภัยจ.ตราดจะนำไปหาประโยชน์จากการขายผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ ทางวิสาหกินฯอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอพันธ์กัญชามาปลูกในเร็วๆนี้
นายวศิน กล่าวว่า โครงการนี้ ได้รับการประสานงานจากวิสาหกิจฯที่มีความตั้งใจในการปลูกกัญชาเชิงการแพทย์ จึงได้ทำโครงการปลูก และขออนุญาตซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการแพทย์แผนไทยด้วยดี แต่ต้องการทำข้อตกลงหรือMOUในเรื่องการปลูกว่า เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจะต้องนำดอกและยอดส่งมอบให้กับกรมการแพทย์แผนไทย เพราะในส่วนยอดและดอกยังเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ส่วนราก ใบ หรือ ลำต้นสามารถนำไปหาประโยชน์ หรือจำหน่ายให้กับผู้สนใจทั่วไปได้ แต่ต้องมีการทำเอกสารซื้อขายอย่างถูกต้องเพื่อควบคุมด้วย โดยกรมการแพทย์แผนไทยจะอนุญาตให้ปลูกปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ต้น โดยจะได้เมล็ดพันธุ์จากกรมการแพทย์แผนไทยมาปลูก ซึ่งประมาณ 150 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งหากสามารถปลูกและได้ผลผลิตแล้วจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของจ.ตราดมาก
นายวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการครั้งนี้ ถือว่าเป็นนโยบายรัฐบาลซึ่งขณะนี้ดำเนินการในระยะที่ 2 ที่วิสาหกิจชุมชนสามารถขออนุญาตได้ แต่ต้องได้รับการควบคุมตามที่กรมการแพทย์แผนไทยได้กำหนดไว้ แต่ในระยะที่ 3 สมาชิกในวิสาหกิจสามารถทำการแยกพันธ์ุต้นกัญชาไปปลูกในบ้านของตัวเองได้ครอบครัวละ 6 ต้น และนำมาจำหน่วยให้วิสาหกิจที่จะสามารถให้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ทางการแพทย์และใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและครัวเรือนจำนวนมาก