เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีการปรับครม.รัฐบาลประยุทธ์ 2/4 ที่สลับเก้าอี้รมช.คมนาคมกับ รมช.พาณิชย์ ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะหลักการบริหารในระบอบประชาธิปไตยโดยเฉพาะในรัฐบาลผสมหลายพรรค จะต้องมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน โดยหากพรรคใดมีรัฐมนตรีว่าการ โควตารัฐมนตรีช่วยในกระทรวงนั้นจะเป็นคนจากพรรคอื่น เพื่อให้คานอำนาจในการบริหาร และในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีการปรับ ครม. แลกกระทรวงแบบนี้มาก่อนที่ให้รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยจากพรรคการเมืองเดียวบริหารกระทรวงเดียวกัน ยกตัวอย่างกระทรวงเกษตรฯที่รัฐมนตรีว่าการมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนรัฐมนตรีช่วยอีก 3 คนมาจาก 3 พรรคการเมือง คือ พรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา งานของกระทรวงเกษตรฯก็เดินหน้าบริหารมีประสิทธภาพ ช่วยเหลือเกษตรกรได้ดี
“วันนี้สังคมตั้งข้อสังเกตการสลับกระทรวงครั้งนี้ ว่า พรรคการเมืองนี้ไม่ต้องการให้มีรัฐมนตรีช่วยจากพรรคการเมืองอื่น คงไม่น่าใช่เหตุผลของการทำงาน แต่คงไม่ต้องการให้พรรคอื่นมารู้เห็นการบริหารงานในกระทรวงนั้นๆ หรืออยากจะกินรวบการทำงานในกระทรวง จึงเอาเฉพาะคนของพรรคตนเองร่วมบริหารหรือไม่ ยิ่งทำอย่างนี้ สังคมยิ่งจับตามองสองกระทรวงนี้ ยิ่งกระทรวงใหญ่ กระทรวงหลักอย่างคมนาคม และพาณิชย์ ยิ่งมีงบประมาณและโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่จะต้องให้ประชาชนตรวจสอบได้ แต่เมื่อนายกฯออกตัวเห็นชอบแบบนี้ ติดนิสัยการบริหารแบบเบ็ดเสร็จ จึงขอให้สังคมจับตามมองให้ดี” นายประมวล กล่าว