อบจ.จับมือ กกท.สมุทรสาคร “หารือรับฟังข้อคิดเห็นจ่อซ่อมสนามกีฬาฯ “หลังได้คืนทำ รพ.สนาม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ตามที่ทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้ส่งคืนสนามกีฬากลางของจังหวัดฯ ที่เคยถูกกำหนดให้ใช้อาศัยทำเป็น รพ.สนาม ศูนย์ห่วงใยสาคร เพื่อดูแลและรักษาผู้ติดเชื้อโควิด -19”
ล่าสุดที่ สนง.การท่องเที่ยวและกีฬา (กกท.) สมุทรสาคร ในบริเวณสนามกีฬาจังหวัด นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยสมาชิกที่เกี่ยวข้องในสังกัด ได้ร่วมกับทาง กกท.สมุทรสาคร จัดประชุมเพื่อรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดถึงสภาพสนามกีฬาจังหวัด โดยมีตัวแทนจากชมรมกีฬาสมุทรสาคร และประชาชนที่อาศัยใช้สนามกีฬามาออกกำลังกายและพักผ่อน ซึ่งหลังจากที่มีการส่งมอบคืนสนามกีฬากับ อบจ.สมุทรสาคร ในฐานะที่ตั้งโรงพยายามสนาม (แห่งแรก) ช่วงรับมือการแก้ไขสถานการณ์โควิดฯแพร่ระบาด
ด้วยเหตุนี้จึงได้เตรียมกำหนดและประเมินการชำรุดทรุดโทรมของแผนการปรับปรุงสนามกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานโครงการ อบจ. เพื่อร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ในส่วนที่เสียหายไป โดยมี ปชช. และนักกีฬา มาให้ความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลต่างๆ ในความต้องการของผู้ใช้สนามกีฬา ก่อนไปประเมินทำแผนเพื่อการปรับปรุงต่อไป
นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.เผยว่า หลังจากได้รับมอบส่งคืนพื้นที่สนามกีฬาจังหวัดฯ กลับคืนอยู่ในการดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในส่วนที่จะต้องพัฒนาและปรับปรุงให้มีสภาพเดิม จึงนัดประชุมหารือกันในระหว่างผู้ใช้สนามกีฬา นักกีฬา และผู้ที่ใช้ออกกำลังกาย ซึ่ง อบจ.ก็มีแผนงานโครงการที่มีอยู่เดิมด้วย เช่น การปรับปรุงตัวสนาม และการจัดทำลู่ยางสังเคราะห์ และทำเพิ่มในส่วนอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาบูรณะใหม่ประมาณ 210 วัน
นายอุดม กล่าวว่า สำหรับนโยบายที่คาดหวังจะสร้างสนามกีฬา (แห่งใหม่ขึ้น) ในที่ดินราชพัสดุ ณ พื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ โดยความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้อยู่ในช่วงรอการจัดแบ่งที่ดิน จำนวน 14 ไร่ และหลังจากทาง อบจ. ได้มีดินมาทำสนามกีฬาฯอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามแต่จะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย ทั้งผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและนักเล่นกีฬา โดยถือว่าเป็นแนวทางในการสร้างสนามดังกล่าวเพื่อสามารถสอดรับกับความต้องการของคนในจังหวัดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคิดเห็น ปชช.ส่วนหนึ่งและกลุ่มตัวแทนผู้ใช้สนามเล่นกีฬา ซึ่งในที่รับฟังความคิดเห็นปรากฏว่า พอใจกับแนวทางการจะปรับปรุงสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ที่ทาง อบจ.สมุทรสาคร จะร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุงสภาพชำรุด อย่างไรก็ตามอยากให้ปรับปรุงซ่อมแซมสนามครั้งนี้ได้กลับมามีมาตรฐานและสามารถรองรับการแข่งขันกีฬาในระดับที่ดีขึ้นต่อไป
ล่าสุดที่ สนง.การท่องเที่ยวและกีฬา (กกท.) สมุทรสาคร ในบริเวณสนามกีฬาจังหวัด นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยสมาชิกที่เกี่ยวข้องในสังกัด ได้ร่วมกับทาง กกท.สมุทรสาคร จัดประชุมเพื่อรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดถึงสภาพสนามกีฬาจังหวัด โดยมีตัวแทนจากชมรมกีฬาสมุทรสาคร และประชาชนที่อาศัยใช้สนามกีฬามาออกกำลังกายและพักผ่อน ซึ่งหลังจากที่มีการส่งมอบคืนสนามกีฬากับ อบจ.สมุทรสาคร ในฐานะที่ตั้งโรงพยายามสนาม (แห่งแรก) ช่วงรับมือการแก้ไขสถานการณ์โควิดฯแพร่ระบาด
ด้วยเหตุนี้จึงได้เตรียมกำหนดและประเมินการชำรุดทรุดโทรมของแผนการปรับปรุงสนามกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานโครงการ อบจ. เพื่อร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ในส่วนที่เสียหายไป โดยมี ปชช. และนักกีฬา มาให้ความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลต่างๆ ในความต้องการของผู้ใช้สนามกีฬา ก่อนไปประเมินทำแผนเพื่อการปรับปรุงต่อไป
นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.เผยว่า หลังจากได้รับมอบส่งคืนพื้นที่สนามกีฬาจังหวัดฯ กลับคืนอยู่ในการดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในส่วนที่จะต้องพัฒนาและปรับปรุงให้มีสภาพเดิม จึงนัดประชุมหารือกันในระหว่างผู้ใช้สนามกีฬา นักกีฬา และผู้ที่ใช้ออกกำลังกาย ซึ่ง อบจ.ก็มีแผนงานโครงการที่มีอยู่เดิมด้วย เช่น การปรับปรุงตัวสนาม และการจัดทำลู่ยางสังเคราะห์ และทำเพิ่มในส่วนอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาบูรณะใหม่ประมาณ 210 วัน
นายอุดม กล่าวว่า สำหรับนโยบายที่คาดหวังจะสร้างสนามกีฬา (แห่งใหม่ขึ้น) ในที่ดินราชพัสดุ ณ พื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ โดยความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้อยู่ในช่วงรอการจัดแบ่งที่ดิน จำนวน 14 ไร่ และหลังจากทาง อบจ. ได้มีดินมาทำสนามกีฬาฯอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามแต่จะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย ทั้งผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและนักเล่นกีฬา โดยถือว่าเป็นแนวทางในการสร้างสนามดังกล่าวเพื่อสามารถสอดรับกับความต้องการของคนในจังหวัดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคิดเห็น ปชช.ส่วนหนึ่งและกลุ่มตัวแทนผู้ใช้สนามเล่นกีฬา ซึ่งในที่รับฟังความคิดเห็นปรากฏว่า พอใจกับแนวทางการจะปรับปรุงสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ที่ทาง อบจ.สมุทรสาคร จะร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุงสภาพชำรุด อย่างไรก็ตามอยากให้ปรับปรุงซ่อมแซมสนามครั้งนี้ได้กลับมามีมาตรฐานและสามารถรองรับการแข่งขันกีฬาในระดับที่ดีขึ้นต่อไป