วันที่ 26 มีนาคม 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ได้นำเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 กกรกฎาคม 2564 จากองค์กรหลักด้านธุรกิจท่องเที่ยวและบริการของไทยนำมาเสนอ โดยนำร่องทำโครงการแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ที่ จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสโดยไม่ต้องกักตัวเป็นการนำร่อง และเกาะสมุยเป็นสถานที่ต่อไป หากสามารถดำเนินการได้ จะทำให้ปี 2564 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.5 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 3.47 แสนล้านบาท ขณะที่ นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกาะสมุยได้ร่วมกันจัดทำโครงการ สมุย วันเดอร์ ไอแลนด์ เปิดเกาะสมุยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากักตัวและท่องเที่ยวตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.พิจารณา และได้รับการอนุมัติในหลักการแล้ว ทั้งนี้ได้หารือกับทางนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์สแล้ว ว่าจะร่วมกันดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมากักตัวและท่องเที่ยวที่เกาะสมุย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากตลาดระยะไกล เช่น สหรัฐ ยุโรป และออสเตรเลีย ที่แวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์แล้วมาต่อเที่ยวบินของบางกอกแอร์เวยส์ตรงมายังเกาะสมุย โดยตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเดินทางเข้ามาวันแรกคือวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เบื้องต้นรองรับได้ 1,000 คนในช่วงสัปดาห์แรกเป็นการนำร่อง เนื่องจากปัจจุบันเกาะสมุยมีโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือกของรัฐ (ALSQ) จำนวน 10 แห่ง เพียงพอต่อเป้าหมายจำนวนคนดังกล่าว อีกทั้งภาครัฐและเอกชนเกาะสมุยยังได้ร่วมกันจัดทำแผนรองรับและแผนเผชิญเหตุเรียบร้อย หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อขึ้นมา สามารถรองรับผู้ป่วยได้สูงสุด 100 คน โดยแนวทางการปฏิบัติงาน (SOP) ทั้งหมดได้จัดทำเสร็จหมดแล้ว เหลือเพียงทางกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบ และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาสำรวจเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวบนเกาะสมุย คาดว่ากระบวนการเหล่านี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มีนาคมนี้ เพื่อให้ ททท.นำโครงการสมุย วันเดอร์ ไอแลนด์ ไปโปรโมทส่งเสริมการขายในช่วง 3 เดือนนับจากนี้ เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเกาะสมุยทันวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป สำหรับรายละเอียดของโครงการนี้ ได้วางแนวทางไว้ คือ มีการกักตัว 14 วันแบบผ่อนคลาย แบ่งเป็น 7 วันแรกให้อยู่ในโรงแรมและเส้นทางที่กำหนด กับ 7 วันหลังที่นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าการมากักตัวที่เกาะสมุย เหมือนไม่ได้กักตัว โดยในวันที่ 1-2 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าที่พักด้วยระบบปิดจากสนามบินจนถึงโรงแรมในเกาะสมุย และอยู่แต่ในห้องพักเท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 2 หากไม่พบเชื้อ สามารถท่องเที่ยวต่อได้ในวันที่ 3-7 โดยเดินทางไปในพื้นที่หรือเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น (Sealed Routes) ซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทางและโปรแกรม เช่น ล่องเรือคาตามารัน ชมพระอาทิตย์ตกดิน รับประทานอาหารบนเรือ กิจกรรมเชิงสุขภาพอย่างการทำสปาแบบไม่ใช้ของเหลว การทำโยคะ รวมถึงให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมพักผ่อนที่หาดส่วนตัว 2 จุด ได้แก่ หาดส่วนตัวบนเกาะแตน และหาดถ้ำร้างที่หมู่เกาะอ่างทอง ทั้งนี้ต้องไม่ปะปนกับคนในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวคนไทย และตั้งแต่วันที่ 8-14 นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนที่พักและท่องเที่ยวภายในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จนถึงวันที่ 15 เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่จะเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้ออีกครั้ง หากไม่พบเชื้อ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดได้