ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ
จากชื่อจริง วิลเลี่ยม อะพโพสทอล มาเป็นชื่อที่ใช้ในอาชีพศิลปินว่า บิลลี่ สตริงส์ เจตนาบอกถึงความช่ำชองในการเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้สาย และคงบอกถึงความรักที่เขาเลือกจะเดินทางเส้นนี้ด้วย
บิลลี่ สตริงส์ เกิดเมื่อ 19 ปีที่แล้วในเมืองมูร์ รัฐมิชิแกน พ่อเลี้ยงของเขาชอบเล่นดนตรีบลูแกรสส์และมักรวมกลุ่มเพื่อนๆเล่น แม้ไม่ได้เป็นวงดนตรีอาชีพ อิทธิพลดนตรีที่พ่อชื่นชอบก็ครอบคลุมตัวเขามาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาได้รู้จักดนตรีของคนระดับตำนานมากมาย อย่าง ด็อค วัทสัน, เอิร์ล สครักก์ส, เลสเตอร์ แฟล็ทท์, จอห์น ฮาร์ทฟอร์ด, ราล์ฟ สแตนลี่ย์, เดฟ กริสแมน, เดล แม็คคูรี่ ฯลฯ
และผลงานของคนเหล่านี้ก็ทำให้เขาจับเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่นตั้งแต่ 7 ขวบ สตริงส์ เล่นเครื่องสายที่ใช้ในดนตรีบลูแกรสส์ได้เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์, แบนโจ, แมนโดลิน หรือฟิดเดิล
“ย้อนไปตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก เล่นกับพ่อ” สตริงส์ เล่า “นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผม ผมไม่ต้องแคร์โลก ทั้งหมดที่ผมต้องการทำคือเรียนรู้การเล่นกีตาร์ เพราะพ่อผมเล่นเก่งมาก เราจะอยู่กันที่ปาร์ตี้ ทุกคนจะดื่มและสูบบุหรี่ ผมก็เพียงแต่นั่งบนถังน้ำแข็ง พยายามที่จะฝึกตามเพลงที่พวกเขาแจมกัน”
เมื่อโตขึ้น สตริงส์ ก็ได้ร่วมเล่นกับพ่อ โดยเป็นมือกีตาร์ริธึ่ม ตอนนั้นเขายังไม่ได้สนใจการร้องและเล่นโซโล่ ต่อมาการรับรู้ทางดนตรีของเขาก็ขยับขยายขอบเขต สตริงส์ ได้รู้จักผลงานของศิลปินร็อกยิ่งใหญ่ อย่าง จิมมี่ เฮนดริกซ์, เกรทฟูล เด๊ด, จอห์นนี่ วินเทอร์, เลด เซพพีลิน, แบล็ค ซับบาธ ฯลฯ เขาเริ่มเล่นในวงเมทัลกับเพื่อนๆ
นั่นเป็นช่วงเวลาที่เขาหันมาฝึกกีตาร์แบบเอาเป็นเอาตาย ทำให้ป้าของเขาเรียกเขาว่า “บิลลี่ สตริงส์”
สตริงส์ จบมัธยมและเข้าอาชีพนักดนตรีเต็มตัว ฝีมือในการแสดงของเขาเริ่มถูกกล่าวขวัญถึงปากต่อปาก จากแวดวงบลูแกรสส์ไปสู่แวดวงดนตรีอื่นๆกว้างขวางขึ้น ได้โอกาสให้ร่วมแจมกับศิลปินรุ่นอาวุโสชั้นแนวหน้ามากมาย และถูกเลือกเข้าร่วมเทศกาลดนตรีใหญ่ๆมากมาย ในขณะเดียวกันก็สร้างสรรค์ผลงานอัลบั้มของตนเองไปด้วย
ในปี 2017 นิตยสาร โรลลิ่ง สโตน ผู้ทรงอิทธิพลยกให้ สตริงส์ เป็นหนึ่งในสิบศิลปินคันทรีหน้าใหม่ที่น่ารู้จัก เช่นเดียวกับนิตยสาร อะคูสติค กีตาร์ จัดให้เขาอยู่ 1 ใน 6 ดาวรุ่งบลูแกรสส์, สมาคมดนตรีบลูแกรสส์สากลมอบรางวัลนักดนตรีแห่งปีให้ และสื่อ ฮัฟฟ์โพสต์ ยกให้ Turmoil and Tinfoil ผลงานของเขา เป็นหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2017
สตริงส์ ออกอัลบั้มในแบบอิสระมา 3 ชุด Rock of Ages (2013), The Fiddle Tune X (2014) และ Turmoil and Tinfoil ในที่สุดก็เซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ ราวน์เดอร์ และออกอัลบั้ม Home ในปี 2019
Home ประสบความสำเร็จอย่างมาก ติดอันดับ 1 บนตารางอันดับ Heatseekers Albums และ Bluegrass Albums ของ บิลล์บอร์ด นอกจากนี้ยังทำให้เขาได้รางวัล มือกีตาร์แห่งปี จากสมาคมบลูแกรสส์ฯ และรางวัล แกรมมี่ สาขาอัลบั้มบลูแกรสส์ยอดเยี่ยมที่สุด
แต่ทั้งหมดที่ สตริงส์ ได้รับวันนี้ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นปัญหาและมืดหม่น เขาเคยเข้าไปพัวพันกับเหล้าและยาเสพติดในช่วงวัยรุ่น แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ ประสบการณ์เหล่านั้นทำให้เขาเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น และต่อจากนี้ยังจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอีกจากการตั้งรับต่อชื่อเสียงและความสำเร็จที่ถาโถมเข้ามา
ดูเหมือน สตริงส์ ก็รู้ดีว่า การได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในมือกีตาร์ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน มีความกดดันขนาดไหน เพลงของเขาจึงมักมีความหมายเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และเขาก็รับเอาบทเรียนจากสิ่งที่เขาเขียนเองด้วย สตริงส์
เล่าครั้งหนึ่งบนเวทีคอนเสิร์ตว่า “ผมอยู่กลางเพลง ‘Away in Mire’ ต่อหน้าฝูงชนขนาดใหญ่ ตอนนั้นผมแน่ใจว่ากำลังบอกทั้งหมดนี้กับตัวเองด้วย คล้ายๆ ‘ให้ตายสิ นายก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการปล่อยวาง’”
สำหรับ บิลลี่ สตริงส์ ดนตรีคือสิ่งสำคัญที่สุด นับจากวัยเด็กถึงวัยริมๆ 30 ดนตรีคือบ้านที่ทำให้เขาอบอุ่นและปลอดภัย และมันจะเป็นอย่างนั้นเสมอ


