กรมส่งเสริมการเกษตร สร้างช่างเกษตรท้องถิ่น สนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาทักษะและเทคนิคการใช้และซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตร ให้สามารถตรวจเช็ค ซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรของตนเอง และเกษตรกรด้วยกันในท้องถิ่น เพื่อปรับตัวรองรับการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเครื่องจักรกลขนาดเล็ก
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำโครงการช่างเกษตรท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อสร้าง “ช่างเกษตรท้องถิ่น” ให้มีทักษะในการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตร โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย ช่างเกษตรท้องถิ่นระดับที่ 1 มีทักษะในการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรได้อย่างถูกต้อง มี ช่างเกษตรท้องถิ่นระดับที่ 2 จะคัดเลือกผู้ผ่านการฝึกอบรมช่างเกษตรระดับที่ 1 เพื่อพัฒนาทักษะช่างในการซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรเพิ่มเติม ให้สามารถบริการตรวจเช็ค ซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรข้างเคียงในท้องถิ่นได้ และช่างเกษตรท้องถิ่นระดับที่ 3 จะคัดเลือกผู้ผ่านการฝึกอบรมช่างเกษตรระดับที่ 2 เพื่อพัฒนาทักษะช่างและเทคนิคการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตร ให้สามารถบริการตรวจเช็คซ่อมแซมใหญ่ เครื่องยนต์เกษตร (Overhaul) ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงในท้องถิ่นได้
สำหรับในปี 2564 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการสนับสนุนให้เกิดช่างเกษตรท้องถิ่นประจำแปลงใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่สามารถลดต้นทุนการเกษตรและเพิ่มรายได้ให้สมาชิกเกษตรกรมากขึ้น พร้อมปรับหลักสูตรใหม่เป็น หลักสูตรพื้นฐาน คือมุ่งเน้นให้เกษตรกรนั้น มีทักษะในการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรอย่างถูกต้อง เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง การล้างกรองอากาศ การเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น เป็นต้น และหลักสูตรเน้นหนัก มุ่งเน้นให้เกษตรที่ผ่านการอบรมจากหลักสูตรช่างพื้นฐาน ได้ต่อยอดความรู้ในด้านทักษะเชิงช่างซ่อมบำรุง
โดยหลักสูตรจะมีการถอด-ประกอบเครื่องยนต์ ซ่อมแซมระบบกำลังอัด รวมถึงเทคนิคการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการทำงานและชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเองได้ และสามารถให้บริการตรวจเช็ค ซ่อมแซมใหญ่เครื่องยนต์เกษตร (Overhaul) ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงได้ โดยเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทั่วประเทศจะคัดเลือกเกษตรกรในพื้นที่ของตน ที่มีความพร้อมเข้ารับการฝึกอบรมในกิจกรรมสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน จำนวน 3,600 ราย และหลักสูตรเน้นหนัก 400 ราย ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร ปีงบประมาณ 2564 เพื่อสร้างช่างเกษตรประจำท้องถิ่นรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร
“ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเกษตรสามารถสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นกว่าหมื่นราย มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและเทคนิคการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตร เพื่อนำความรู้ไปปฏิบัติซ่อมแซม บำรุงเครื่องยนต์เกษตรของตนเองและของเกษตรกรในชุมชน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ผ่านการอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นอีกด้วย”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
นายละออง พลายระหาร ช่างเกษตรท้องถิ่นต้นแบบมืออาชีพ จากจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 เมื่อปี 2562 เปิดเผยว่า โดยพื้นฐานมีความรู้ด้านช่างอยู่ระดับหนึ่งและทำอาชีพเกษตรเป็นหลัก โดยทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน (อกม.) จนกระทั่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้คัดเลือกให้เข้าอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นทั้ง 3 ระดับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ยนต์ขนาดเล็ก ที่เกษตรกรนิยมใช้ทั่วไป จนทำให้สามารถนำมาปฏิบัติจริงและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรที่มีความสนใจได้ รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตรให้กับเกษตรกรในชุมชน ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตร ถึงปีละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท และด้วยเป็นคนที่ชอบประดิษฐ์และดัดแปลง จึงซื้อเครื่องยนต์และอะไหล่เก่า เช่น เครื่องสูบน้ำ มาซ่อมดัดแปลงให้ใช้งานได้เป็นปกติ เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาเครื่องละ 1,000-1,500 บาท สำหรับให้เกษตรกรที่มีทุนน้อยได้มีโอกาสเข้าถึง
“การทำเกษตรในยุคปัจจุบัน มีการใช้เครื่องจักรกลและเครื่องยนต์เกษตรเพื่อลดแรงงานคน จึงมีความจำเป็นที่เกษตรกรจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตร เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากไม่มีความรู้พื้นฐานด้านช่างอยู่เลย ก็จะต้องจ้างทุกครั้งไป ซึ่งจะเป็นต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบัน นอกจากจะทำหน้าที่เป็นช่างเกษตรท้องถิ่น ให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตรที่บ้านของตนเอง ณ บ้านเลขที่ 709 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ เป็นผู้ให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหา และให้บริการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรให้แก่เกษตรกรประจำแปลงใหญ่ ณ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี อีกด้วย”นายละออง กล่าว
โดยหลักสูตรจะมีการถอด-ประกอบเครื่องยนต์ ซ่อมแซมระบบกำลังอัด รวมถึงเทคนิคการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการทำงานและชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเองได้ และสามารถให้บริการตรวจเช็ค ซ่อมแซมใหญ่เครื่องยนต์เกษตร (Overhaul) ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงได้ โดยเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทั่วประเทศจะคัดเลือกเกษตรกรในพื้นที่ของตน ที่มีความพร้อมเข้ารับการฝึกอบรมในกิจกรรมสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน จำนวน 3,600 ราย และหลักสูตรเน้นหนัก 400 ราย ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร ปีงบประมาณ 2564 เพื่อสร้างช่างเกษตรประจำท้องถิ่นรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร
“ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเกษตรสามารถสร้างช่างเกษตรท้องถิ่นกว่าหมื่นราย มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและเทคนิคการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตร เพื่อนำความรู้ไปปฏิบัติซ่อมแซม บำรุงเครื่องยนต์เกษตรของตนเองและของเกษตรกรในชุมชน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ผ่านการอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นอีกด้วย”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
นายละออง พลายระหาร ช่างเกษตรท้องถิ่นต้นแบบมืออาชีพ จากจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเกษตรท้องถิ่นระดับ 3 เมื่อปี 2562 เปิดเผยว่า โดยพื้นฐานมีความรู้ด้านช่างอยู่ระดับหนึ่งและทำอาชีพเกษตรเป็นหลัก โดยทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน (อกม.) จนกระทั่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้คัดเลือกให้เข้าอบรมช่างเกษตรท้องถิ่นทั้ง 3 ระดับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ยนต์ขนาดเล็ก ที่เกษตรกรนิยมใช้ทั่วไป จนทำให้สามารถนำมาปฏิบัติจริงและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรที่มีความสนใจได้ รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตรให้กับเกษตรกรในชุมชน ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตร ถึงปีละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท และด้วยเป็นคนที่ชอบประดิษฐ์และดัดแปลง จึงซื้อเครื่องยนต์และอะไหล่เก่า เช่น เครื่องสูบน้ำ มาซ่อมดัดแปลงให้ใช้งานได้เป็นปกติ เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาเครื่องละ 1,000-1,500 บาท สำหรับให้เกษตรกรที่มีทุนน้อยได้มีโอกาสเข้าถึง
“การทำเกษตรในยุคปัจจุบัน มีการใช้เครื่องจักรกลและเครื่องยนต์เกษตรเพื่อลดแรงงานคน จึงมีความจำเป็นที่เกษตรกรจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตร เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากไม่มีความรู้พื้นฐานด้านช่างอยู่เลย ก็จะต้องจ้างทุกครั้งไป ซึ่งจะเป็นต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบัน นอกจากจะทำหน้าที่เป็นช่างเกษตรท้องถิ่น ให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เกษตรที่บ้านของตนเอง ณ บ้านเลขที่ 709 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ เป็นผู้ให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหา และให้บริการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรให้แก่เกษตรกรประจำแปลงใหญ่ ณ ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี อีกด้วย”นายละออง กล่าว