ใกล้เข้ามาเเล้วกับกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองไทย "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" กิจกรรมวิ่งผลัดธงชาติไทย ต่อเนื่อง 61 วัน ผ่าน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. โดยจะเริ่มนับ 1 ออกสตาร์ทกันในช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคมนี้ ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวกการเฟ้นนักวิ่งที่เป็นประชาชนมาจากทั่วประเทศ ได้ทำการประกาศชื่อนักวิ่ง 4,568 คน เพื่อเข้ามาร่วมวิ่งกับ ศิลปิน ดารา และนักกีฬาอีกมากมายไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว
ทั้งนี้ผู้สมัครจะได้ร่วมวิ่งถือธงไตรรงค์คนละ 1 กิโลเมตร โดยจะเริ่มออกสตาร์ทในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม นี้ ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กกท. โดยจะทำการวิ่งต่อเนื่อง 61 วัน ผ่าน 35 จังหวัด ก่อนมาสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 รวมระยะทางการ วิ่งทั้งหมด 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางจาก กรุงเทพฯ ถึงกรุงโตเกียว
โดยกิจกรรม "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" ถือเป็นการร่วมเเสดงออก ถึงความร่วมไม้ร่วมมือและร่วมใจกันของคนไทยทั้งชาติในการส่งต่อกำลังใจให้นักกีฬาจากประเทศไทยสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2564
กิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์หนนี้เกิดขึ้นได้มาจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล
(ไอโอซี), คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และพันธมิตรภาคเอกชนทุกภาคส่วน
สำหรับงาน "FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก" จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กกท. โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิด
สนใจติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทางเวปไซต์ www.stadiumth.com และ www.facebook.com/THStadium/ รวมถึงรับชมไลฟ์สดการวิ่งเเบบเรียลไทม์ในทุกก้าวทุกกิโลเมตรผ่านทางเฟซบุ๊ค "Road to Tokyo 2020" เเละ "ก้าว"