งานแรกผู้ว่าปู นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระยะไกล จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาน้ำเค็มรุกหนัก ซึ่งวันนี้ ทาง ปภ.สมุทรสาคร ร่วมกับ ปภ.เขต1 ปทุมธานี สำนักงานชลประทาน ฝ่ายปกครอง และผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็ม จึงได้สำรวจสถานที่เพื่อตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล
จากปัญหาน้ำเค็มรุกหนักในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จนส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกล้วยไม้ ที่เกิดความเสียหายเพราะขาดน้ำจืดใช้ในสวน และปีนี้บอกกันว่าเค็มที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งทางนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ทราบถึงปัญหาดังกล่าวนี้ จึงได้ดำเนินการขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระยะไกลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2564 นายรังสรรค์ กาพิยะ นายช่างเครื่องกลอาวุโส ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต1, นายประยงค์ บุญมีรอด หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ สนง.ปภ.จ.สมุทรสาคร, นายจตุนันท์ จอมทัน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอกระทุ่มแบน, นายวิษณุ สำรวยรื่น กำนัน ต.บางยาง, นางสาวณัฐนรี ช้วนรักธรรม วิศวกรชลประทานปฎิบัติการ ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 และเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมหารือและลงพื้นที่สำรวจดูจุดที่เหมาะสมต่อการตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล โดยจุดแรกคือที่คลองหนองนกไข่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย จำกัด ต.หนองนกไข่ คลองนี้เป็นคลองหลักที่ยังมีน้ำจืดใช้ได้ ที่คาดว่าจะนำเครื่องสูบน้ำระยะไกลมาตั้งที่คลองนี้ จากนั้นจะลากสายข้ามแม่น้ำท่าจีนเพื่อไปลงคลองที่ใกล้ที่สุดที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง โดยมีระยะห่างจากจุดตั้งเครื่องประมาณ 2.5 กิโลเมตร แต่อุปสรรคนั้นคือการวางแนวท่อที่จะต้องผ่านชุมชน และส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตที่ฝั่งท่อลงไปไม่ได้ ซึ่งก็ต้องหาวิธีวางเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน สำหรับเครื่องสูบน้ำระยะไกลจะมีระยะไกลสุดคือ 3 กิโลเมตร ที่จะสูบน้ำจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ผ่านท่อ ขนาด 6 นิ้ว
ทางนายวิษณุ สำรวยรื่น กำนัน ต.บางยาง เกษตรกรรายหนึ่งในพื้นที่บอกว่า หากได้เครื่องสูบน้ำมาช่วยก็น่าจะช่วยทุเลาปัญหาได้เพราะจะได้เข้ามาเสริมรถส่งน้ำที่ทางกรมชลประทานดำเนินการอยู่ที่มีอยู่ราว 10 คัน ที่วิ่งส่งน้ำกันตามสวนทุกวัน แต่การวางแนวท่อก็อาจมีอุปสรรค เพราะการนำน้ำจืดจากอีกฝั่งข้ามมาอีกฝั่งมีระยะทางที่ยาวและผ่านบ้านเรือน ซึ่งก็ต้องมาร่วมกันหาทางออก
คึส่วนอีกหนึ่งจุดคือในตำบลสวนส้ม ที่ประสบปัญหาน้ำเค็มทะลักเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้ก็มีนายอานนท์ ลิขิตวัฒนกิจ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพ้ว ,นายประยงค์ นอบน้อม นายก อบต.สวนส้ม และเกษตรกรในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูล สำหรับในตำบลสวนส้ม ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็มรุกเช่นเดียวกัน โดยน้ำทะเลได้หนุนและรอดเข้ามาทางประตูระบายน้ำในคลองบางยางเก่าที่ประตูชำรุดด้านข้างและด้านล่าง ความเค็มจึงค่อยไหลเข้ามา ซึ่งตอนนี้เกษตรกรก็ได้รับการช่วยเหลือจาก อบจ.และทางท้องถิ่นที่ส่งรถบรรทุกน้ำมาช่วย โดยมีแหล่งน้ำจืดหลักคือคลองคันพนังที่อยู่คนละฝั่งถนน จุดนี้จะไม่ยากต่อการนำน้ำจืดข้ามฝั่ง เพราะระยะทางสั้น และทางท้องถิ่นได้มีการขุดลอก และทางสำนักงานชลประทานจังหวัดสมุทรสาครได้มีการวางระบบท่อไว้อยู่แล้ว จึงใช้เพียงเครื่องสูบน้ำ 14 นิ้วสูบข้ามฝั่งจากคลองคันพนังและมาลงคลองลำลางข้างทางที่เชื่อมต่อกับคลองบางยางเก่าได้เลย แต่ที่สำคัญต้องซ่อมประตูระบายน้ำที่ชำรุดก่อนเพื่อป้องกันน้ำทะเลไหลเข้ามา ซึ่งหากนำน้ำมาลงคลองบางยางเก่าได้ คลองนี้ก็จะเป็นจุดหลักที่สวนอื่นๆจะสูบน้ำไปใช้ต่อได้ เพราะคลองมีความยาวมากซึ่งหลังจากที่สำรวจแล้วก็จะนำผลสรุปเข้าที่ประชุม เพื่อพื้นที่พร้อมก็จะนำเครื่องสูบน้ำที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครขอสนับสนุนไว้มาลงในพื้นที่ได้ทันที



