วันที่ 25 มีนาคม 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลัง 8 สมาคมท่องเที่ยว ประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย สมาคมสปาไทย และสมาคมธุรกิจสายการบินประเทศไทย นำโดยนางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรมแรมไทย เข้าพบ เพื่อยื่นแผนเปิดรับนักท่องเที่ยว พร้อมเสนอแนวทางการบริหารจัดการวัคซีน และแผนการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว(ที่ได้รับวัคซีนแล้ว) โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งตามแนวทางของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดไทม์ไลน์นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 ครั้ง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะมีมาตรการอย่างไร หรือจะเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นคงจะมีการพิจารณาต่อไป แต่การเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นสำหรับคนที่ได้รับวัคซีน 2 ครั้ง จะใช้ในลักษณะ Sand Box ตามที่มีการหารือกันระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งสมาคมโรงแรม และชาวภูเก็ต เนื่องจากเบื้องต้นจะใช้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง Sand box ทั้งนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ได้เสนอขอวัคซีนไปยังกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 925,000 โดส เพื่อไปฉีดให้กับประชาชนชาวภูเก็ต ได้ 70 % โดยจะได้รับวัคซีนในช่วงเดือนมีนาคม เดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม และหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน จะมีการรอระยะเวลา14 วัน เพื่อให้มีการสร้างภูมิ ซึ่งจะเข้าในเงื่อนไข ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 ครั้ง เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัวในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 สำหรับสัปดาห์แรกจะขอให้นักท่องเที่ยวเดินทางอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และหากไม่มีอาการ นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ โดย นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ได้เตรียมนำเรื่องการนำร่องทำ Sand Box ที่ จังหวัดภูเก็ต และการขอวัคซีนเพื่อฉีดเมืองท่องเที่ยวหลักที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไทย เสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณา เพราะถ้าแต่หากสามารถดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม ก็จะทำให้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยประมาณ 6.5 ล้านคนในปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการหารือกับสมาคมโรงแรมและสายการบินต่างๆ เพิ่มเติมในส่วนที่ถ้าหากนโยบายดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ ก็จะต้องอาสัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว เช่น ค่าโดยสาร เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น ในช่วงไตรมาส 3 และก่อนจะถึงช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564 ด้านนางมาริสา กล่าวว่า ทางสมาคมท่องเที่ยวทั้ง 8 แห่ง ได้รวมตัวกันนำเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว โดยเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากผลกระทบของโควิด-19 ให้เร็วที่สุด หลังหยุดชะงักนานกว่า 1 ปี ด้วย 6 ข้อเสนอ คือ 1.ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เปิดรับต่างชาติในพื้นที่นำร่องจังหวัดภูเก็ต-เกาะสมุย 2.เร่งรัดการจัดหาวัคซีน ให้พื้นที่นำร่อง 70% ของจำนวนประชากร 3.พิจารณาให้เอกชนสามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างเร่งด่วน 4.เร่งจัดสรรวัคซีนให้กับบุคคลากรภาคท่องเที่ยวและบริการ เกือบ 1 ล้านคนภายในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว 5.ประกาศกรอบเวลาการรับนักท่องเที่ยว อย่างน้อยในพื้นที่นำร่อง และ 6.พิจารณาอนุมัติใช้แอปพลิเคชั่น สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ เพื่อ อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และสายการบิน