"อนุทิน" ลั่น ถ้าวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้ พร้อมเปิดประเทศ การันตี ยี่ห้อไหนผ่านอย.ไทยปลอดภัยหมด ฟุ้ง สธ.ทำงานได้เกินเป้า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประเทศว่า มาตรการผ่อนคลายต่างๆที่จะเกิดขึ้นจะขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีน ซึ่งจากนี้ถึงอีก 2 เดือนข้างหน้า จะมีการกระจายฉีดวัคซีนเป็นล้านคน ที่ผ่านมาใช้ไปประมาณ 1 ล้านโดส และเดือนหน้าอีกประมาณ 1-2 ล้านโดส ดังนั้นภายในเดือนพ.ค.นี้เราจะเริ่มรู้แล้วว่า คนที่ได้รับวัคซีนมีภูมิคุ้มกันระดับไหน ซึ่งถ้าผลเป็นที่น่าพอใจก็จะมั่นใจได้ว่าจะต้องฉีดให้คนจำนวนมาก จากนั้นจะเป็นการผ่อนคลายมาตรการให้เกิดความสะดวกและเป็นปกติมากขึ้น หลักการแรกคือต้องดูความปลอดภัยของประชาชน ปลอดภัยเมื่อไหร่เปิดเมื่อนั้น ไม่เก็บไว้แน่นอน ส่วนแผนและระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับความปลอดภัย รวมทั้งการเจรจากับประเทศคู่เจรจาต่างๆ ทั้งนี้ หากวัคซีนเข็มแรกที่ได้ฉีดให้กับทุกคนได้ผล มีภูมิคุ้มกันกันหมดจะเป็นตัวชี้วัดได้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งทำในเรื่องนี้อยู่แล้ว และกำลังเร่งขึ้นทะเบียนวัคซีน อย่างวันนี้องค์การอาหารและยา (อย.) ก็ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เท่ากับเรามีทางเลือกเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่ได้มีการปิดกั้นในเรื่องของวัคซีน ตราบใดที่ผู้ผลิตวัคซีนยื่นเอกสารเข้ามา ถ้าทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนเราจะอนุมัติโดยเร็ว เมื่อวันนี้ประเทศไทยเรามีวัคซีน 3 ยี่ห้อแล้ว ประกอบด้วย ซิโนแวค แอสตราเซเนกา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ใครสามารถไปเจรจาและเขายอมขายวัคซีนให้ ก็ถือว่ามีความชอบธรรมที่จะนำเข้า แต่เขาจะยอมขายหรือไม่เป็นอีกเรื่อง เพราะทุกบริษัทผลิตมาในช่วงภาวะฉุกเฉิน และหากผู้นำเข้ารับสภาพได้ว่า เป็นการนำเข้ามาเฉพาะในภาวะฉุกเฉิน ความรับผิดชอบของผู้ผลิตมีจำกัด ผู้ที่จะมารับขอวัคซีนเองรับสภาพได้ กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่มีปัญหา แค่ระบุว่าจะนำเข้ามาและไปฉีดที่โรงพยาบาลใด มีการขอและขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกรมควบคุมโรค เราก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำคุณประโยชน์ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เป็นการแบ่งเบาภาระ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในเรื่องของวัคซีนแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ การเข้าถึงวัคซีนมีเพิ่มมากขึ้น แต่เราไปซื้อจำนวนมากก็ไม่ได้ เผื่อมีการกลายพันธุ์ อนาคตก็ต้องดูวัคซีนที่มีการพัฒนา เราต้องใช้วัคซีนที่เหมาะสมที่สุด แต่ช่วงนี้ก็ต้องใช้สายพันธุ์นี้ไปก่อน
" วัคซีนที่ดีที่สุดในโลกมันไม่มีหรอก มีแต่วัคซีนที่เหมาะ มาถูกเวลา ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ และส่วนใหญ่วัคซีนที่กว่าจะมาถึงมือเราใช้เวลามาก และกว่าจะผ่านขั้นตอนของอย.ไทยยากเย็นแสนเข็ญ ดังนั้นหากอนุญาตให้มาใช้ได้แสดงว่ามีความปลอดภัยขั้นสูงสุดแล้ว"
นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการมาถือว่าเกินเป้าหมาย ทั้งเรื่องการพัฒนา การเข้าถึงวัคซีน และความรวดเร็ว เกินคาดกว่าที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าไว้ วันนี้ปัญหาที่ต้องทำให้เร็วที่สุด คือการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ยิ่งฉีดได้มาก ฉีดได้เร็ว และมีประสิทธิภาพก็จะทำให้เปิดประเทศได้เร็ว วันนี้ทางสถานเอกอัครราชทูตก็เริ่มมาพูดคุยกันแล้วในเรื่องการพิจารณาการเข้าประเทศ