เมื่อวันที่ 25 มี.ค.นพ.พลเดช ปิ่นประทีบ ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขเนื้อหามาตรา 9 ร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติว่า คณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่ส่งเนื้อหาที่ปรับปรุงแก้ไขมาให้กมธ. ล่าสุดได้รับแจ้งว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่สามารถพิจารณาแก้ไขเนื้อหาเสร็จได้ทัน เพราะต้องแก้ไขเนื้อหาที่ผูกโยงกับมาตรา9 อีกหลายมาตรา คณะกรรมการกฤษฎีกาหนักใจจะพิจารณาไม่ทัน ดังนั้นแนวโน้มการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญวันที่ 7-8 เม.ย.ตามที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ระบุเป็นช่วงเวลา เหมาะสมนั้น คงไม่สามารถเปิดประชุมได้แล้ว คาดว่าน่าจะเป็นหลังสงกรานต์ จะนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญได้ ส่วนการประชุมกมธ.ในวันที่1-2เม.ย. คงหาข้อสรุปอะไรไม่ได้  เพราะกฎหมายเสร็จไม่ทัน คงทำได้แค่ประเมินสถานการณ์กัน ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มการแก้ปัญหาร่างพ.ร.บ.ประชามติจะออกมาทางใด เพราะสมาชิกรัฐสภาหลายคนเกรงว่า เนื้อหามาตรา9ที่แก้ไขให้รัฐสภาและภาคประชาชนมีส่วนร่วมเสนอการจัดทำประชามติได้ จากเดิมที่ให้ครม.เป็นผู้มีอำนาจฝ่ายเดียว อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ นพ.พลเดช กล่าวว่า สมาชิกหลายคนกังวลเนื้อหาที่เพิ่มเติมใหม่ให้รัฐสภาและภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอการจัดทำประชามติ อาจขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญให้ทำได้เฉพาะกรณีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และเรื่องที่ครม.มีมติให้ทำเท่านั้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า อาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พิจารณากันอยู่ ส่วนจะโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.ประชามติในวาระ 3เพื่อตัดปัญหาไปเลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของที่ประชุมรัฐสภา ไม่ใช่ส.ว. เพราะเสียงข้างมากในกรณีนี้คือ เสียงส.ส.เป็นคนชี้ขาด แต่ขอให้จับตาตอนโหวตวาระ2 ในมาตรา10 ถึงมาตรา 14 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวโยงกับมาตรา9 ให้ดี อย่ากระพริบตา มีโอกาสจะไม่ราบรื่น ตีรวนกันสูง เป็นไปได้ มาตราเหล่านี้อาจจะไม่ผ่าน