การสร้างพลังชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ เป้าหมายหลักในการทรงงานตลอด 70 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ได้น้อมนำหลักการทรงงานและแนวพระราชดำริหรือศาสตร์พระราชามาปฏิบัติ และขยายผลการพัฒนาในระดับครัวเรือน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก้าวไปสู่ชุมชนพอเพียง
บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ 9 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นตัวอย่างความสำเร็จในการรวมกลุ่มชมชนที่เข้มแข็ง โดยยึดหลักเดินตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนเป็นหมู่บ้านต้นแบบที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งยังได้รับรางวัลพระราชทานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ผืนป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานถูกทำลายกลายเป็นเขาหัวโล้นจากการปลูกพืชเชิงเดียว เช่น ข้าวโพด ฝ้ายตามกฤดูกาล เกิดภัยแล้งฝนไม่ตกตามฤดูกาล ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและอาชีพของชาวบ้าน เมื่อฝนไม่ตกผลผลิตไม่ได้ ชาวบ้านจึงเป็นหนี้สะสมและล้มเหลวในการประกอบอาชีพ บางรายต้องโยกย้ายถิ่นฐานหางานทำนอกพื้นที่
นายชูชาติ วรรณขำ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ 9 ต.แก่งกระจาน เล่าว่า ได้นำปัญหาดังกล่าวเข้าที่ประชุมชาวบ้าน และกำหนดเป้าหมายของหมู่บ้านว่าเราจะพัฒนาทิศทางของหมู่บ้านให้ไปแนวทางไหน มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่อยู่ด้วยด้วยวิธีอะไร สุดท้ายก็ได้คำตอบมาว่า เราต้องใช้วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงใช้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาหมู่บ้าน โดยให้ชาวบ้านไปร่วมคิดร่วมวางแผนและร่วมลงมือทำ เดิมที่ปัญหาหนี้สินที่แก้ได้ด้วยการออมเพื่อสร้างแหล่งเงินทุนซึ่งจากการบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ทำให้กลุ่มออมทรัพย์มีความเข้มแข็งและสามารถปลูกฝังให้ชาวบ้านทำบัญชีครัวเรือนได้ครบทุกครอบครัว
“เนื่องจากคนในหมู่บ้านน้ำทรัพย์มีความเป็นอยู่ที่พอเพียง จึงปลุกจิตสำนึกและสร้างความรู้เพื่อให้คนกับป่าอาศัยพึ่งพากันได้อย่างยั่งยืน โดยมีชาวบ้านที่สามารถเปลี่ยนชีวิตด้วยศาสตร์ของพระราชาเป็นคนต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจ ในเวลาเดียวกันก็สร้างคนที่เป็นต้นแบบของหมู่บ้านโดยทำพร้อมกันหมด วิธีการของที่นี่คือให้คนต้นแบบหรือครัวเรือนต้นแบบขยายคน ใครทำเรื่องอะไรดีก็เข้าไปส่งเสริมด้านงบประมาณด้านการให้ความรู้แล้วคนก็ไปเรียนรู้ต่อ”
ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้ำทรัพย์ อธิบายต่อว่า ปัจจุบันนอกจากมีกลุ่มมะนาวที่ไม่ใช้สารเคมีแล้ว ชาวบ้านน้ำทรัพย์ยังรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมเพื่อพึ่งพาและเชื่อมโยงกันภายในชุมชน เช่น กลุ่มพิทักษ์ป่า กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยใช้ม้า กลุ่มทำปลาส้มและกลุ่มทำขนมทองม้วน ที่นอกจากจะเป็นสินค้าโอทอปขึ้นขายทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังเป็นต้นแบบความสามัคคีของชาวบ้านที่ร่วมใจกันแก้ปัญหาเป็นชุมชนต้นแบบที่หลักความพอเพียง
จากการชาวบ้านทำกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย จึงร่วมกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำทรัพย์ รวบรวมเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ไว้ที่ศูนย์กรเรียนรู้บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ 9 เป็นสถานที่ที่ต้อนรับประชาชน หน่วยงานต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงาน มาเที่ยวและพักค้างคืน นำไปสู่การต่อยอดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยใช้ม้าในชุมชน และต่อยอดให้กลุ่มอาชีพทำขนม เช่น ขนมทองม้วน และขนมทองพับ ตลอดจนอาหารมื้อหลักที่จะคอยให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น ปลานิลทอด ปลาส้ม ปลาส้มคั่วกลิ้ง ซึ่งเป็นเมนูเด็ดที่ใครมาเที่ยวแก่งกระจานก็จะได้ลิ้มลองอาหารเกี่ยวกับเมนูปลาแก่งกระจาน ทำให้กลุ่มดังกล่าวเกิดการตลาดขึ้นภายในหมู่บ้าน
ทีมข่าวภูมิภาค