ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนราชการสังกัดกระบวนการยุติธรรม คณะผู้ประนีประนอมประจำศาล และเจ้าหน้าที่ ทนายความ ร่วมทำบุญตักบาตร บริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสครบรอบ 100 ปีก่อตั้งศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 07.30 น. ที่บริเวณศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญโญ วัดประชาคมนาราม อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีก่อตั้งศาล จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี พระเทพสารเมธี รักษาการเจ้าคณะภาค 8 วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และพระภิกษุสมณศักดิ์ร่วมพิธี ทั้งนี้ มีนายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ นางอารีย์ โรจน์วัฒนบูลย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.กาฬสินธุ์ นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายณัชฐปกรณ์ เจริญรัตนวานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาล จ.กาฬสินธุ์ นางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม พร้อมด้วยคณะผู้ประนีประนอมประจำศาล จ.กาฬสินธุ์ ส่วนราชการสังกัดกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ ทนายความ ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ศาลจ.กาฬสินธุ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2464 ที่ทำการศาล จ.กาฬสินธุ์หลังเดิมเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว มีห้องพิจารณาเพียงห้องเดียว จึงไม่เพียงพอแก่ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาใน พ.ศ.2483 ได้ต่อเติมอาคารออกไปเป็นห้องพิจารณาอีกห้องหนึ่งก็ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับตัวอาคารชำรุดทรุดโทรม ขาดความเรียบร้อยสง่างาม จึงต้องสร้างใหม่เป็นศาลขนาด 4 บัลลังก์ และได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2506 โดยนายกำธร พันธุลาภ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และศาลได้เปิดทำการเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2507 โดย ฯพณฯ พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ในสมัยนั้น
ต่อมา พ.ศ.2531 ได้ก่อสร้างต่อเติมอาคารศาลทางด้านข้างของอาคารศาลหลังเดิมพร้อมกับบ้านพักข้าราชการศาล แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2532 ลักษณะของอาคารที่ก่อสร้าง ต่อเติมเป็นอาคาร 2 ชั้นทรงไทย มีห้องพิจารณาเพิ่มอีก 4 ห้อง และมีห้องประชุม 1 ห้อง ห้องสมุด 1 ห้อง ต่อมาได้ต่อเติมห้องพิจารณาเพิ่มอีก 2 ห้อง และเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2556 ได้มีการปรับปรุงอาคารศาลใหม่ ซึ่งในปัจจุบันอาคารศาล จ.กาฬสินธุ์เป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้นมีห้องพิจารณา 12 ห้อง ตั้งอยู่ที่ถนนกาฬสินธุ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สถานที่ และบุคลากร รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลและกระบวนการยุติธรรม ศาล จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตร ในโอกาสครบรอบก่อตั้งศาล จ.กาฬสินธุ์ เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี ได้นิมนต์พระคุณเจ้าสมณศักดิ์ 9 รูป และเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมทำบุญตักบาตร ซึ่งเป็นการให้ทาน รักษาศีลและร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับปัจจัยที่ได้รับจากการร่วมบริจาคทำบุญในครั้งนี้ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค ก็จะได้จัดมอบให้กับวัดและชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ โดยจะนำไปช่วยเหลือวัดที่ขาดแคลน และครัวเรือนยากจนในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ ศาลจ.กาฬสินธุ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2464 ที่ทำการศาล จ.กาฬสินธุ์หลังเดิมเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว มีห้องพิจารณาเพียงห้องเดียว จึงไม่เพียงพอแก่ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ต่อมาใน พ.ศ.2483 ได้ต่อเติมอาคารออกไปเป็นห้องพิจารณาอีกห้องหนึ่งก็ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับตัวอาคารชำรุดทรุดโทรม ขาดความเรียบร้อยสง่างาม จึงต้องสร้างใหม่เป็นศาลขนาด 4 บัลลังก์ และได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2506 โดยนายกำธร พันธุลาภ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และศาลได้เปิดทำการเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2507 โดย ฯพณฯ พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ในสมัยนั้น
ต่อมา พ.ศ.2531 ได้ก่อสร้างต่อเติมอาคารศาลทางด้านข้างของอาคารศาลหลังเดิมพร้อมกับบ้านพักข้าราชการศาล แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2532 ลักษณะของอาคารที่ก่อสร้าง ต่อเติมเป็นอาคาร 2 ชั้นทรงไทย มีห้องพิจารณาเพิ่มอีก 4 ห้อง และมีห้องประชุม 1 ห้อง ห้องสมุด 1 ห้อง ต่อมาได้ต่อเติมห้องพิจารณาเพิ่มอีก 2 ห้อง และเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2556 ได้มีการปรับปรุงอาคารศาลใหม่ ซึ่งในปัจจุบันอาคารศาล จ.กาฬสินธุ์เป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้นมีห้องพิจารณา 12 ห้อง ตั้งอยู่ที่ถนนกาฬสินธุ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สถานที่ และบุคลากร รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลและกระบวนการยุติธรรม ศาล จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตร ในโอกาสครบรอบก่อตั้งศาล จ.กาฬสินธุ์ เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี ได้นิมนต์พระคุณเจ้าสมณศักดิ์ 9 รูป และเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมทำบุญตักบาตร ซึ่งเป็นการให้ทาน รักษาศีลและร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับปัจจัยที่ได้รับจากการร่วมบริจาคทำบุญในครั้งนี้ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค ก็จะได้จัดมอบให้กับวัดและชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ โดยจะนำไปช่วยเหลือวัดที่ขาดแคลน และครัวเรือนยากจนในโอกาสต่อไป