"ศิษย์คิดลึก" ข่าวช็อกสังคม 40 ทรชนรุมโทรมเด็กหญิงวัย 15 มานานนับปีิ คดีนี้ทำให้ใครต่อใครนึกถึงการกระทำที่เหมือนไม่ใช่มนุษย์ "คืนบาปที่พรหมพิราม" ที่ดังจนสร้างเป็นหนังเมื่อสิบกว่าปีก่อน ถูกหยิบยกกลับมาให้สะเทือนหัวใจกันอีกหน "เตือนใจ" เป็นอีกเรื่องก่อนหน้า "คืนบาปฯ" สร้างจากเรื่องจริงของ น.ศ.สาววิทยาลัยครูแห่งหนึ่งใน กทม.ที่เป็นเหยื่อฆ่าข่มขืนสะเทือนขวัญเป็นคดีที่ใครในยุคนั้นไม่มีวันลืม...ท่ามกลางคดีเด็กหญิงวัย 15 ปีที่ตอนนี้สังคมต่างตั้งคำถามมากมาย อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ขณะชาวบ้านในหมู่บ้านพื้นที่ต่างเครียดหนัก รับไม่ได้ไม่เชื่อเลยว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ จึงเกิดปฏิกิริยาที่กลายเป็นคำพิพากษาย่อมๆ จนเหยื่อครอบครัวอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายออกนอกพื้นที่ พร้อมกับมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่หยิบยกข้อถกเถียงที่ไม่มีวันจบขึ้นมาอีก"ข่มขืน-ประหาร" เท่านั้น จึงจะสาสมกับความผิด...บ้านเราที่ห่างหายจากการประหารชีวิตมา 8 ปี ซึ่งตามมาตรฐานสหประชาชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนโลกที่เราเป็นสมาชิก ถือว่าในประเทศที่มีโทษประหาร หาก 10 ปีไม่มีการประหารใคร ให้ถือว่าไม่มีโทษประหารชีวิตอีก...140 ประเทศในโลกนี้ที่ยกเลิกการตัดสินประหารชีวิตไปแล้ว ขณะ 58 ประเทศที่ยังมีรวมทั้งไทย อีก 2 ปี หากประเทศไทยไม่มีการประหาร...นั่นหมายถึงโทษประหารชีวิตจะไม่มีอีก... จากสถิติปี 2557 พบมีผู้หญิง-เด็กถูกกระทำ 87 คน/วันและมีเพียง 15% เท่านั้นที่ไปแจ้งความอีกทั้งจำนวนที่ระบุเป็นเพียงที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น และยังเป็นเฉพาะแค่ในพื้นที่ กทม. ท่ามกลางเหยื่อที่เกิดขึ้นวันแล้ววันเล่า ชะตากรรมของเหยื่อ-ครอบครัวที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสะเทือนใจ... ล่าสุดดังที่เป็นข่าวแค้นนี้ต้องชำระ พ่อสุดทนคว้าปืนกระหน่ำยิงคนย่ำยีลูก หลังรอกระบวนการทางกฎหมายไม่เคลื่อนไหว... ขณะบางคนบอกนึกแล้วมันทำใจยาก หากต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย แล้วต้องมาปวดใจซ้ำ เมื่อยังต้องมานั่งเลี้ยงคนที่กระทำย่ำยีผู้อันเป็นที่รักอีก เพราะข้าวปลาอาหารของคนคุกล้วนแล้วแต่มาจากเงินภาษี...ท่ามกลางเสียงอีกด้าน การประหารชีวิตไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ในมุมมองนักกฎหมายก็ว่า หนำซ้ำยังอาจทำให้เหยื่อถูกฆ่ามากขึ้นอีก... รวมทั้งที่สำคัญ หากไม่ใช่คนทำจริง คนที่ติดคุกกลับเป็น"แพะ" ไปเล่า ดังสุภาษิตของศาลท่านว่า"ปล่อยคนผิด 10 คน ยังดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์คนเดียว"... จากที่ได้ฟังรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ท่านว่า "ประหารชีวิตในบ้านเรายังเลิกไม่ได้ แต่ต้องเอาไว้ปรามโดยความผิดใหม่จะไม่มีโทษประหาร จะทยอยเปลี่ยนจากประหารเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน" ทั้งนี้ ทุกวันนี้นักโทษล้นคุก และส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดที่ติดกันยาว...รวมทั้งยังมี คดี "แพะ" อยู่หลายต่อหลายคดี และอีกหลายต่อหลายคดีที่รวยแล้วไม่ผิดไม่ติดคุกก็มาก...อีกทั้งยังมีตำรวจสายดาร์ก 0.01% ที่ว่ากันว่าเป็นส่วนน้อยนิดชนิดผงธุลีดิน จากคดีที่พังงา ทำให้นึกถึงคดีค้ากามที่แม่ฮ่องสอน สุพรรณฯ ที่ก็รู้ๆ กันแต่ต้นกับบทจบ เมื่อลมซาก็หาย ทั้งเรื่องราวที่พังงายังมาแบบแพ็กคู่กับปัญหา ยาเสพติดชนิดตบหน้ากันชัดๆ ซัดกันเต็มๆ ว่าปัญหานี้มีอยู่ทั่วไทย และแทรกซึมไปทุกหย่อมหญ้า...เพียงแต่ว่าจะเอาความจริงมาพูดกันไหม และจะเอาจริงกันหรือไม่ หรือมันปราบไม่ได้...ก็เท่านั้น..."เรื่องราวที่พังงายังมาแบบแพ็กคู่กับปัญหา ยาเสพติดชนิดตบหน้ากันชัดๆ ซัดกันเต็มๆ"