จากข้อมูล International Society of Aesthetic Plastic Surgeons พบว่า ในปี 2562 มีการทำศัลยกรรมตกแต่งเพิ่มขึ้นทั่วโลกกว่า 7.4 % โดยผู้หญิงอายุ 35-50 ปีเป็นกลุ่มหลัก และมีการผ่าตัดหน้าอกจำนวนสูงที่สุด ตามด้วยการดูดไขมันปรับแต่งรูปร่าง และศัลยกรรมตา ในขณะที่ในประเทศไทยมีการผ่าตัด ตา และจมูก เป็นจำนวนสูงที่สุด และศัลยกรรมหน้าอกรองลงมา ในจำนวนนี้ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ทำศัลยกรรมที่มาจากต่างประเทศสูงที่สุดถึง 33.2 % ตามด้วยเม็กซิโก และตุรกี ซึ่งแสดงถึงความนิยมและศักยภาพด้าน Medical Tourism โดยเฉพาะด้านศัลยกรรมตกแต่ง โดยประเทศไทยเองมีการเติบโตของ Total Procedure ถึง มากกว่า 16 % ในปี 2562 โดย นายแพทย์ศรัณย์ วรรณจำรัส กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลวรรณสิริ กล่าวว่า วรรณสิริก่อตั้งโดยการรวมตัวของทีมแพทย์มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ตั้งอยู่ย่านพระราม 3 บนอาคาร 6 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 5,700 ตารางเมตร รองรับการรักษาได้ 30 เตียง ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้าน โดยตั้งใจเป็นฮับความงามเทียบชั้นประเทศเกาหลี โดยเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ "การรักษาจะยึดหลักความปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล เพื่อมอบประสบการณ์ความงามแบบครบวงจร ในราคาที่คุ้มค่า คุ้มคุณภาพ โดยเป็นความตั้งใจในการสร้างโรงพยาบาลมาตรฐานที่ครบครัน ด้วยทีมอาจารย์แพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทางการแพทย์และธุรการกว่า 100 คน พร้อมเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย โดยตั้งเป้าในการยกระดับมาตรฐานใหม่แห่งความงามให้เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งเป็นผู้นำในการบริการความงามครบวงจรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" นายแพทย์ศรัณย์ กล่าว ซึ่ง นายแพทย์ศรัณย์ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของโรงพยาบาลวรรณสิริคือ ศักยภาพการให้บริการความงามครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่เรามีทั้ง การดูแลรักษาผิวหน้า-การปรับรูปหน้า, การปรับรูปร่าง-กระชับหุ่น-ดูดไขมัน, การศัลยกรรมทรวงอก, นรีเวช, ฮอร์โมน, จุดซ่อนเร้น, บริการดูแลสุขภาพ และเวชศาสตร์ชะลอวัย ที่ดูแลได้ถึงระดับเซลล์ ไปจนถึงการผ่าตัดแปลงเพศ (Transgender) ที่สามารถให้คำปรึกษาและดูแลได้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยทั้งหมด ดำเนินการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมศัลยกรรมตกแต่งมืออาชีพมากประสบการณ์ระดับประเทศ รวมทั้งบุคลากรที่โรงพยาบาลวรรณสิริ มีศัลยแพทย์ผู้ทำหน้าที่ศัลยกรรม ต้องมีใบประกอบวิชาชีพจากสภาวิชาชีพแพทย์หรือแพทยสภา ซึ่งในประเทศไทยมีแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ยังแอคทีฟและมีประสบการณ์พอเพียง ประมาณการณ์ไม่เกิน 300 ท่านเท่านั้น ยังต้องมีการพัฒนาในด้านบุคคลากรอีกมากในประเทศ เพื่อก้าวขึ้นสู่ระดับโลกได้จริง โรงพยาบาลวรรณสิริของเราจะให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น โดยเรามีแนวทางการให้บริการด้วยการผสมผสานการรักษา โดยการร่วมมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหลายหลากสาขาเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด สามารถให้บริการความงามได้ครบวงจร ตลอดจนบริการการแพทย์ชั้นสูงอย่างการซ่อมสร้าง เป็นต้น นอกจากความพร้อมด้านเทคนิค และ บุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในแต่ละแผนกแล้ว วรรณสิริยังโดดเด่นในด้านการผสมผสานเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย อาทิ นวัตกรรมห้องผ่าตัด เราใช้โมดูลห้องผ่าตัดที่เป็นระบบพิเศษ สิทธิบัตรจากประเทศอังกฤษ หรือที่เรียกว่า คลีนรูม ที่สั่งออกแบบเฉพาะที่โรงพยาบาลของเราเท่านั้น สามารถฆ่าเชื้อโรคในระดับสูง รวมไปถึง การใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่จะช่วยให้แผลเล็กฟื้นตัวเร็ว ได้ผลลัพธ์ความงามที่น่าพึงพอใจ,การสร้างแบบจำลอง 3 มิติความละเอียดสูง เพื่อให้คำปรึกษาก่อนการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ, ระบบบริหารจัดการลงทะเบียน QR/Bluetooth, การประมวลผลภาพและเทคโนโลยี X-Ray ตลอดจนความใส่ใจในการให้ปรึกษาทุกขั้นตอน และการตรวจผลแล็บเชิงลึก ด้าน นายวนิก มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาธุรกิจ โรงพยาบาลวรรณสิริ กล่าวว่า จากปัจจัยบวกเชิงนโยบายจากภาครัฐ ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ของไทยมีการขยายตัว แม้จะมีการหยุดชะงักไปบ้างจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ประเทศไทยยังมีโอกาสกลับมาเติบโตในด้านนี้ ซึ่งจากจุดแข็งต่างๆ ของโรงพยาบาลวรรณสิริ ทำให้มั่นใจในศักยภาพการบุกตลาด เบื้องต้นเน้นกลุ่มพรีเมี่ยมที่ต้องการบริการศัลยกรรมคุณภาพ โดยมีความร่วมมือกับคลินิกเสริมความงามในประเทศและคลินิกเฉพาะทางในเกาหลีในการขยายฐานลูกค้า นอกเหนือจากฐานลูกค้าเดิมจากทีมแพทย์แต่ละท่าน ตลอดจนแผนการตลาดดิจิทัลต่างๆ นอกจากนี้การที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาแบบครบวงจร จึงเป็นความแข็งแกร่งของโรงพยาบาล เพราะบุคลากรทางการแพทย์ต่างมีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี เฉพาะศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็มีถึง 13 ท่าน มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วอย่างมากมาย รวมทั้งลูกค้าต่างชาติที่เคยบินมาศัลยกรรมกับแพทย์ท่านนั้นๆ โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่มักศึกษาหาข้อมูลมาอย่างดีก่อนจะมาถึงมือแพทย์