วันที่ 24 มี.ค.64 เวลา 18.56 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา นำ ผู้พิพากษาประจำศาล รุ่นที่ 72 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นางกรกันยา สุวรรณพานิช เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายภีม ธงสันติ เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่แก่ผู้พิพากษาประจำศาล ความว่า การที่ผู้พิพากษาประจำศาลได้มาให้คำสัตย์ปฏิญาณ ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเตือนใจตัวเองว่า บัดนี้จะปฏิบัติงานเป็นผู้พิพากษา อันเป็นตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ที่จะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ในการอำนวยความยุติธรรมนั้น มีข้อควรคำนึงอยู่ว่า กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับรักษาความยุติธรรมก็จริง แต่เมื่อจะนำมาใช้ ต้องอาศัยดุลยพินิจที่ถูกต้องด้วย ผู้พิพากษาจึงต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบและรอบด้าน และวินิจฉัยตัดสินให้ถูกต้อง ชอบธรรม ตามตัวบทกฎหมาย ตามศีลธรรม และตามความเป็นจริง หากท่านทั้งหลายจะได้คำนึงถึงเรื่องนี้ แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จผลตามที่ได้ปฏิญาณไว้ ก็จะสามารถสร้างสรรค์จรรโลงความยุติธรรมให้เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนได้อย่างแท้จริง