วันที่ 24 มี.ค.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล . พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. , พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความ สะดวกด้านการจราจรในการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า เนื่องด้วยได้มีการประกาศชักชวนให้มีการออกมาร่วมชุมนุมผ่าน โซเชียลต่างๆ โดยกลุ่ม แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการนัดหมายวันพุธที่ 24 มี.ค.64 เวลา 17.00 น. จึงขอแจ้งให้ประชาชนที่จะมาเข้าร่วมการชุมนุมในวัน-เวลาดังกล่าวนั้น ทราบว่าท่านอาจมีความผิดและได้รับโทษตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้ 1. การร่วมกันชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เป็นความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบใน การแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. การกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุ ให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6),51 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท 3. ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 200 บาท พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่าการกระทำดังกล่าว ผู้ชักชวน ให้มาร่วมชุมนุม ไม่ว่า ด้วยวิธีการหนึ่งวิธีการใด ผู้จัดการชุมนุม ตลอดจน ประชาชนผู้เข้ามาร่วมชุมนุม ถือว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว มาแล้วข้างต้น และอาจเป็นเหตุให้รับโทษตามกฎหมายได้