เมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุฤดูร้อนที่พัดผ่านมาทำให้ระบบนิเวศฟื้นตัว ต้นไม้ต่าง ๆ เริ่มแตกยอดอ่อนใบเขียว สัตว์น้อยใหญ่เริ่มเติบโตขยายพันธุ์ ได้รับอานิสงส์ความชุ่มชื้นจากเม็ดฝนที่ตกลงมา เช่นเดียวกับผีเสื้อเริ่มมีการขยายพันธุ์ไปตามกิ่งไม้ต่างๆ ริมทาง จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับชาวบ้าน บ้านกกตูม บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ชาวบ้านจำนวนมาก ต่างพากันถือตะกร้าเดินตระเวนเก็บดักแด้หนอนผีเสื้อที่อยู่ตามใบไม้ โดยดักแด้หนอนผีเสื้อมีลักษณะลำตัวสีเขียวอ่อน กลมกลืนกับใบไม้ ขนาดยาว 2-3 เซนติเมตรโดยสามารถหาได้จากป่าของต้นขี้เหล็กต้นกระถินป่าและต้นไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ต้นขี้เหล็ก
จากการสอบถามนาง น้อย ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเขาวง ที่เดินทางมาเก็บดักแด้ที่ห่างจากบ้านของตัวเองประมาณ 20 กิโลเมตร ระบุว่า 1 ปี มีหนึ่งครั้งที่จะมีเมนูเปิบดักแด้หนอนผีเสื้อ หากเลยห้วงระยะเวลานี้ไป ดักแด้ก็จะโตเป็นผีเสื้อ ถามว่ารับประทานได้ไหม แน่นอนอร่อยมาก คนเฒ่าคนแก่รับประทานมาแต่โบราณ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน วิธีการง่ายๆ แค่เดินถือตะกร้าไปตามริมถนน สังเกตต้นไม้ต้นไหนเริ่มแตกยอดอ่อนโดยเฉพาะต้นขี้เหล็ก ใช้มือเปล่าพริกใบไม้ขึ้นมาก็จะเห็นตัวดักแด้หนอนผีเสื้อเกาะอยู่ จากนั้นก็หยิบเอาใส่ลงตะกร้า เมื่อหาได้ในปริมาณมากๆ ก็นำไปรับประทาน ลดรายจ่ายในครัวเรือน หรือนำไปขาย ตอนนี้ราคาขายพุ่งไปกิโลกรัมละ 400 บาทแล้ว
ส่วนวิธีการนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน นำดักแด้หนอนผีเสื้อล้างให้สะอาด ต้มในน้ำร้อนพอสุก ตักออกพักไว้ให้แห้ง จากนั้นตั้งไฟอ่อน ๆ คั่วไปเรื่อย ๆ จนหอม ใส่น้ำมันพืชไปนิดนึงเพื่อให้ดักแด้เกิดความมัน ปรุงน้ำปลานิดนึง และตักใส่จานรับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ โดยดักแด้หนอนผีเสื้อมีรสชาติหอม มัน อร่อยเหมือนกับดักแด้หนอนไหม นับได้ว่าเป็นของหากินยาก 1 ปีมีครั้ง ไม่แพ้กับของป่าอย่างอื่น ที่นอกจากจะหามากินในครัวเรือนแล้วยังเอาไปขายได้ราคาดีอีกด้วย