ศ.นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วย “5G Powered Smart University Enabled with Cloud and AI” เพื่อยกระดับและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย เพื่อให้มีห้องเรียนอัจฉริยะและโซลูชั่นเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการมีความร่วมมือด้านวิจัยที่กว้างขึ้นแล้ว ยังให้บริการเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Big Data และบริการ Cloud ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศูนย์บริหารและการจัดการเมืองอัจฉริยะ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ จะกลายเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ โดยได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลล่าสุดและบริการขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีด้านอื่นๆ
บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ม.เชียงใหม่มีเป้าหมายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนและเป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เพิ่มพูนเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะซึ่งนอกเหนือจากข้อได้เปรียบทางวิชาการแล้วยังเป็นแบบอย่างสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะรับทราบถึงประโยชน์ของโซลูชันที่รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจเฉพาะของตน
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับหัวเว่ยว่า “มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการพัฒนาในยุคดิจิทัล เทคโนโลยี 5G นับว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ อุตสาหกรรม เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลในทุกๆ ด้าน อาทิ Smart Agriculture, Smart Hospital, Smart City, Smart Port, Smart Campus, Smart Store และ Smart Entertainment เพื่อสร้างการเติบโตทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย ตลอดจนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G เพื่อการศึกษาและนำไปสู่ Digital Transformation ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะพัฒนาให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำ และยังตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาประเทศได้
ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือของ มช. กับ หัวเว่ย ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัย ที่จะนำความทันสมัยของเทคโนโลยี 5G มาขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษา พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีสนับสนุนการวิจัยที่รองรับการเติบโตของโลกยุคดิจิทัล และนำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ 5G แห่งแรกในอาเซียน CMU : Moving Forward to “5G Campus : First in ASEAN” (The First 5G campus in ASEAN) ยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทยให้ดียิ่งขึ้น”