เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ( 21 มี.ค.64 ) ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน จ.เชียงใหม่ ได้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ (หมายเลข AS-350-B2 18301) ในภารกิจดับไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งได้ทำการตักน้ำจากพื้นที่อ่างเก็บน้ำแม่แต้บ มาช่วยดับไฟป่าบริเวณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ได้บินปฏิบัติการช่วยเหลือในเวลา 15.45 นาที จำนวน 25 เที่ยวบิน สามารถตักน้ำช่วยเหลือได้จำนวน 12,500 ลิตร เพื่อป้องกันและควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมไปถึงบินสำรวจพื้นที่แนวกันไฟป่า ในขณะเดียวกันจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า จ.แพร่ เพชรบูรณ์ พื้นที่การเกษตรของ จ.เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ กาญจนบรี อุดรธานี มหาสารคาม นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 5 แห่ง เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และใช้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ำดับไฟป่า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการติดตามสภาพอากาศในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคเหนือ และสถานีเรดาร์ในภาคกลาง สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวง จึงได้วางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่หน่วยฯ จ.ตาก โดยมีพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่ป่าและพื้นที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จ.ลำปาง (ตอนล่าง) จ.ตาก จ.เชียงใหม่ พื้นที่ขาดเเคลนน้ำอุปโภคบริโภค จ.ตาก พื้นที่การเกษตร จ.ตาก และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล และหน่วยฯ จ.นครสวรรค์ โดยมีพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.อุทัยธานี จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี จ.ชัยนาท แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงฯ จำนวน 9 หน่วยฯ ในช่วงเช้านี้ยังคงมีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงแล้วก็พร้อมจะช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที ทั้งนี้เกษตรกร และพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางการติดต่อของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ทาง เพจ Facebook,Instagram,Twitter,Line Official Account,หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ หรือโทรศัพท์ 02-109-5100