เมื่อวันที่ 22 มี.ค.นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่า พรรคไม่ได้กังวลใจ เพราะทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นไปตามเอกสิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ อีกทั้งการแสดงความสุจริตใจในการทำหน้าที่จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ยืนยันว่าไม่มีการกระทำใดที่จะเป็นความผิด ทุกคนเคารพคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากนายศรีสุวรรณคิดว่าผิดก็น่าจะร้องผู้ที่เสนอญัตติขอให้ที่ประชุมพิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วน คือให้ลงมติเพื่อให้โหวตวาระ 3 ด้วยคือนายไพบูลย์ นิติตะวัน และคนที่ลงมติให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ทั้งหมด 474 คน รวมถึงคนที่โหวตงดออกเสียงในการโหวตวาระสามด้วยจำนวน 94 คน เพราะตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา การลงมติมี 3 กรณี คือเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง แสดงว่าคนที่งดออกเสียงก็คือผู้ที่ใช้สิทธิในการโหวตเช่นกัน
นายราเมศ กล่าวต่อว่า การทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาถูกข่มขู่ในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญตลอดในช่วงที่ผ่านมาว่า ทั้ง ๆที่เป็นเอกสิทธิ์ในการใช้สิทธิเพื่อทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย ฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 อำนาจหลัก ก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน ดังนั้นต่อไปในอนาคตหากรัฐสภาจะต้องมีการลงมติ สมาชิกต้องสอบถามเป็นหนังสือไปยังนายไพบูลย์ นิติตะวัน นายศรีสุวรรณ จรรยา ก่อนว่าลงมติหรือไม่ เพื่อให้นายไพบูลย์ให้ความเห็นก่อนว่าลงมติได้หรือไม่ จะเอากันแบบนั้นหรือ เพราะฉะนั้นการโหวตวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่เข้าข่ายจงใจทุจริตต่อหน้าที่ เมื่อไม่มีความผิดก็ให้เลิกคิดไปไกลถึงขั้นยุบพรรค