วันที่ 21 มี.ค. 64 บริเวณศาลาการเปรียญวัดเนินสะอาด หมู่ 16 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้มีชาวบ้านกว่า 200 คนของหมู่ 16 ต.เขาเพิ่ม อ บ้านนาไม่พอใจหลังมีแท่นแบริเออร์มาวางขวางยาวกว่า 7 กิโลเมตร บนถนนทางหลวงหมายเลข 3222 สาย บ้านนา - แก่งคอย ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเดินชูป้ายโดยมีถ้อยคำว่า "เราไม่เอาแบริเออร์" จากนั้นทางปลัดอำเภอ นายณเดชน์ จินดาพรหม ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านนาได้เชิญชาวบ้านทั้งหมดไปนั่งฟังการชี้แจงหาของหน่วยงานกรมทางหลวงและหนวยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปให้กับชาวบ้านโดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ, อส., กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ดูแลความสงบเรียร้อย ซึ่งต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงได้ออกมาชี้แจงและพยายามอธิบายให้กับชาวบ้านเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเอาแท่นแบริเออร์มาปิดกั้นกลางเกาะกลางถนนแต่ไม่เป็นผล เพราะชาวบ้านตะโกนบ่นและต่อว่าและไม่ยอมให้กรมทางหลวงเอาแท่นแบริเวอร์มาขวางกลางถนน พร้อมยังตะโกนต่อว่า ทำอะไรไม่เคยปรึกษาชาวบ้านอยากจะทำอะไรก็ทำไม่เห็นหัวชาวบ้านเลยว่าได้รับความเดือดร้อนขนาดไหน ทำอะไรไม่เคยให้ชาวบ้านได้รับรู้ ทำให้เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ต้องหยุดการชี้แจงและอธิบายเพราะกระแสเสียงของชาวที่ตะโกนใส่แบบไม่ฟังและไม่ยอม ต่อมานายวิษณุ รูปสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาเพิ่มได้เป็นตัวเเทนของชาวบ้านได้ออกมาพูดคุยพร้อมทั้งให้ดูรูปภาพที่กรมทางหลวงเอาแท่นแบริเออร์มาปิดกั้นและย้อนภาพให้กับชาวบ้านทั้งหมดได้ดูไปพร้อมๆกันถึงเหตุและผลที่จะได้รับ เพราะเมื่อก่อนทำถนนมันก็ไม่มีเกาะกลางถนนอยู่แล้วและมันก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุ แต่ถ้าเอาแท่นแบริเออร์มากั้นแล้วทำเป็นจุดกลับรถบ้าง เปิดช่องไว้ให้รถเล็กเช่นรถจักรยานยนต์ ไว้เป็นระยะ รับรองเกิดอุบัติเหตุแน่ เพราะถนนไม่ได้ถูกขยายและยังมาให้รถชลอกลับรถทางก็แคบลงรถที่วิ่งทางขวาก็จะต้องมาติดกับรถที่จะกลับรถ และยิ่งเส้นทาง ถนน 3222 บ้านนา - แก่ง คอย มีแต่รถบรรทุกวิ่งด้วยล่ะก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแน่ เพราะแท่นแบริเออร์ก็สูงมอไซร์ที่จะไปรอข้ามก็ต้องรีบข้ามและก็ต้องไปจอดกลางถนนเพื่อให้รถอีกฝั่งได้ผ่านไปก่อนถึงจะข้ามได้ อันตรายมาก เอาออกเถอะครับแท่นแบริเออร์ ซึ่งระหว่างที่ท่าน นายก อบต.พูดอยู่นั้นได้มีเสียงปรบมือของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งตะโกนและชูป้าย ว่าเราไม่เอาแท่นแบริเออร์ เอาออกไป เอาออกไป จนทำให้เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงออกมารับปากว่าจะรื้อถอนให้ในวันรุ่งขึ้นทำให้ชาวบ้านทั้งหมดทะยอยแยกย้ายกันกับบ้านและจะคอยตามเรื่องในวันพรุ่งนี้ว่าจะมารื้ออกจริงหรือไม่ จากการสอบถามชาวบ้านพูดเป็เสียงเดียวกันหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่เอาเพราะมันเดินทางทำมาหากินลำบากจะข้ามถนนทีก็ต้องระวังรถให้มากขึ้น ต้องไปส่งเด็กนักเรียนทุกเช้า - เย็น บางคนก็บอกสงสารพระที่เดินบิณฑบาตรจะปีนข้ามแท่นแบริเออร์เลยหราก็ต้องไปเดินอ้อม บางคนก็มีรธุกิจรับขนดิน ทรายจะกลับทีก็ลำบากเพราะรถใหญ่จะกลับลำมันยากมากเกรงเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ชาวบ้านหลายอาชีพรับผลกระทบไปตามๆกัน อย่างไรก็ตามพวกตนทั้งหมดจะขอตามดูว่าในวันพรุ่งนี้ วันที่ 22มีนาคม เค้าจะมารื้อออกตามที่เค้ารัยปากไว้มั้ยถ้าไม่ม่รื้อออกพวกตนจะปิดถนนและเอาเต๊นส์และมุ้งไปกลางนอนกลาวถนนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยเป็นไงเป็นกัน