“ในหลวง” พระราชทานแจกันดอกไม้“ประยุทธ์” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบ 67 ปีด้าน“เพื่อไทย” ประณาม “จนท.” ลุยสลาย “ม็อบ” ลุแก่อำนาจ เจตนาทำร้ายปชช. จี้ “บิ๊กตู่”รับผิดชอบ ส่วน “บช.น.” ตั้งโต๊ะชี้แจงยันสลายผู้ชุมนุมจนท.ยึดหลักสากล วอน ปชช.เห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสมือปาบึ้ม ด้าน “6 องค์ กรวิชาชีพสื่อ”ออกแถลงห่วงใยสถานการณ์ชุมนุม ขอทุกฝ่ายอดทน-อดกลั้น ระบุ ไม่เห็นด้วยกับการก่อความรุนแรงทุกรูปแบบ ขณะที่“ซูเปอร์โพล” เผยคนไทยหนุนใช้ทุกกม.จัดการม็อบ ขณะที่ “ศรีสุวรรณ” ร้องปปช. วันนี้ เอาผิด “สมาชิกรัฐสภา” ลุยโหวตวาระ3 เมื่อวันที่ 21 มี.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับมอบ แจกันพระ ราชทาน จากพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุ 67 ปี ในวันที่ 21 มี.ค.2564 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ด้าน นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ การสลายการชุมนุม ของกลุ่มรีเด็ม (REDEM) เมื่อวันที่ 20มี.ค. ที่ผ่านมาบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพื้นที่สนามหลวง ว่า พฤติการณ์ที่ปรากฏจากคลิปที่หลายฝ่ายได้นำมาแสดง นอกจากการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง การฉีดน้ำ ยังเห็นได้ชัดเจนว่ามีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุ มีการวิ่งไล่ทำร้ายประชาชน รุมตีด้วยไม้กระบอง เตะถีบสารพัด ทำนองเหิมเกริมบ้าคลั่งลุแก่อำนาจ และมีเจตนาทำร้ายประชาชนชัดเจน การกระทำของเจ้าหน้าที่ มิใช่การปฏิบัติหน้าที่ตามสมควรของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุและผิดกฎหมาย พรรคเพื่อไทยขอประณามการกระทำดังกล่าว นายกรัฐมนตรีและในฐานะประธาน ก.ตร. ผู้กำกับสั่งการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชา การตำรวจนครบาล แถลงชี้แจงถึงเหตุการณ์ความวุ่นวาย ในการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม (REDEM) เมื่อวันที่ 20มี.ค. ที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพื้นที่โดยรอบท้องสนามหลวง โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้ยุทธ วิธี เป็นไปตามหลักสากล และทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ โดยผู้ชุมนุมได้รื้อถอนแนวกีดขวาง และเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้ง ใช้ก้อนหิน/ ลูกแก้วและลูกเหล็ก ปาประทัดยักษ์โยนเข้าใส่กลุ่มตำรวจเป็นระยะโดยพบว่ารถยนต์ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหายหลายคัน และหลังจากควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 นายและสามารถจับผู้กระทำผิดได้ 20 คน ส่งให้พนักงานสอบสวนดำ เนินคดี ในความผิดฐานร่วมกันชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ความผิดตามพระราชกำหนดฉุกเฉินฯ และความผิด ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรค รวมทั้งข้อหาสมคบกัน ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยใช้อาวุธ และ กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมาย อาญามา ตรา 215 วรรค 1 และ วรรค 2 และความผิด ฐานต่อสู้ ขัดขวาง และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และ มาตรา 140 โดยควบคุมตัว ไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ปทุมธานี เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังจับผู้ที่กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มเติมอีกหลายคน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ขอให้ผู้ที่พบเห็นบุคคลต้องสงสัย ที่ตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพขณะพยายามขว้างวัตถุคล้ายระเบิด หรือ ประทัดยักษ์ เข้าใส่ในพื้นที่ชุมนุม มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ส่วนองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุ และ โทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออน ไลน์และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ออกแถลงการณ์ ถึงการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ และกลุ่มผู้ชุมนุม จนทุกฝ่ายได้รับบาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุม และสื่อมวลชนว่า มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น และไม่เห็นด้วยกับการก่อความรุนแรงในทุกรูปแบบ ส่วนสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 92.3 ระบุ ทุกข์ใจและต้องการให้ใช้กฎหมายทุกมาตราจัดการพวกม็อบ พวกท่อน้ำเลี้ยงและนักการเมือง นักวิชาการบางคน ที่ยุยงปลุกปั่นเผาบ้านตนเอง ชักศึกเข้าบ้าน ทำลายภาษีของประชาชน แกนนำม็อบละเมิดศาล ม็อบละเมิดผู้อื่น คุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ทำลายชาติบ้านเมืองของตนเองด้วยการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงบานปลาย และที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 93.1ขอรัฐบาลต่างชาติอย่าหนุนม็อบทำลายสถาบันหลักของชาติ สร้างความแตกแยกของคนไทยในชาติ วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ผ่านเฟซบุกส่วนตัว ระบุว่า “ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.64 เวลา 10.00 น. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี เพื่อสอบเอาผิดสมาชิกรัฐสภา ที่ให้ความเห็นชอบ(ร่าง) รธน.วาระ 3 โดยไม่มีการให้ประชาชนทำประชามติเสียก่อน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตาม รธน.ม.234(1) และ ม.235 ประกอบ พรป.ป.ป.ช.2561”