เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรหม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.ฯ ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ป. ร่วมกับ พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด. นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พล.ต.ต.สุภัทร ม่วงสมัย ผบก.ตชด.ภาค 2 พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย นายกองโทเชษฐา ขาวประเสริฐ นายอำเภออำเภอปากชม พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผกก.ตชด.24/ผบ.ฉก.ตชด.24 พ.ต.อ.ตรีกฤช จงวิไล ผกก.สภ.ปากชม พ.อ.เรวัฒ ธรรมจิรเดช ผบ.ฉก.ทพ.21 พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา รอง ผกก.ตชด.24/รอง ผบ.ฉก.ตชด.24
โดย พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.ปรัชญานนท์ ยงยิ่ง รอง สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุลฯ) อายุ 35 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง ยาบ้า 4,330,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว รุ่นปาเจโร่ ทะเบียน (สวมทะเบียน) กข -7860 ขอนแก่น ทะเบียนจริง 1 กค-46 กทม. จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ที่ ริมถนนหมายเลข 211 ปากชม-สังคม.บ้านห้วยทับช้าง ม.7 ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย
สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์ประกาศสงครามยาเสพติด แผนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน จังหวัดเลย กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติจะมีการลักลอบขนยาบ้า ข้ามแม่น้ำโขง มาขึ้นริมตลิ่งด้าน หมู่บ้านห้วยทับช้าง หมู่ 7 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งอยู่ตรงข้าม บ้านคกเมือก เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว
จึงวางกำลังดักซุ่มเฝ้าจุดนำยาเสพติดขึ้นจากแม่น้ำโขง โดยจัดกำลังอีกส่วนหนึ่งตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามเส้นทาง 211 กระทั่งเวลา 03.00 น. ผู้ต้องหา ขับรถมิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ต สีขาว ไปรับยาบ้าในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม แต่ในขณะทำการจับกุมนั้น ผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงยิงสกัดใส่ล้อยางด้านหลัง แต่ว่าผู้ต้องหายังสามารถขับขี่หลบหนีต่อไปได้
เจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นจึงติดตามยิงยางรถสกัดให้รถหยุดลงได้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5.6 กม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ปปส. ควบคุมตัวตามบัตร ปปส. เพื่อสืบสวนขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ที่หลบหนีไปมาดำเนินคดี ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.เลย ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจพิสูจน์ยาเสพติดนับจำนวนของกลางได้ยาบ้า จำนวน 4,330,000 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากชม ภ.จว.เลย ดำเนินคดีและขยายผลต่อไป
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่ขับรถมารับยาบ้าจริง ในส่วนของสถานที่ส่งยาบ้านั้น ผู้ต้องหายังไม่ได้รับแจ้งจากผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไป นอกจากนี้ยังให้การเพิ่มเติมว่าหน้าที่ขับรถมารับยาเสพติดนั้นได้รับการชักชวนมาจากเพื่อนที่เคยต้องโทษอยู่ในเรือนจำด้วยกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล ชั้นจับกุม
โดย พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.ปรัชญานนท์ ยงยิ่ง รอง สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุลฯ) อายุ 35 ปี ในความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง ยาบ้า 4,330,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว รุ่นปาเจโร่ ทะเบียน (สวมทะเบียน) กข -7860 ขอนแก่น ทะเบียนจริง 1 กค-46 กทม. จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ได้ที่ ริมถนนหมายเลข 211 ปากชม-สังคม.บ้านห้วยทับช้าง ม.7 ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย
สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์ประกาศสงครามยาเสพติด แผนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน จังหวัดเลย กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติจะมีการลักลอบขนยาบ้า ข้ามแม่น้ำโขง มาขึ้นริมตลิ่งด้าน หมู่บ้านห้วยทับช้าง หมู่ 7 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งอยู่ตรงข้าม บ้านคกเมือก เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว
จึงวางกำลังดักซุ่มเฝ้าจุดนำยาเสพติดขึ้นจากแม่น้ำโขง โดยจัดกำลังอีกส่วนหนึ่งตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามเส้นทาง 211 กระทั่งเวลา 03.00 น. ผู้ต้องหา ขับรถมิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ต สีขาว ไปรับยาบ้าในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม แต่ในขณะทำการจับกุมนั้น ผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงยิงสกัดใส่ล้อยางด้านหลัง แต่ว่าผู้ต้องหายังสามารถขับขี่หลบหนีต่อไปได้
เจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นจึงติดตามยิงยางรถสกัดให้รถหยุดลงได้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5.6 กม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ปปส. ควบคุมตัวตามบัตร ปปส. เพื่อสืบสวนขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ที่หลบหนีไปมาดำเนินคดี ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.เลย ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจพิสูจน์ยาเสพติดนับจำนวนของกลางได้ยาบ้า จำนวน 4,330,000 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากชม ภ.จว.เลย ดำเนินคดีและขยายผลต่อไป
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่ขับรถมารับยาบ้าจริง ในส่วนของสถานที่ส่งยาบ้านั้น ผู้ต้องหายังไม่ได้รับแจ้งจากผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไป นอกจากนี้ยังให้การเพิ่มเติมว่าหน้าที่ขับรถมารับยาเสพติดนั้นได้รับการชักชวนมาจากเพื่อนที่เคยต้องโทษอยู่ในเรือนจำด้วยกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล ชั้นจับกุม