วันที่ 20 มี.ค.64 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังปนะชารัฐ (พปชร.) ฝ่ายกฎหมาย  กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ว่า ส่วนตัว ได้รวบรวมและเตรียมประเด็นที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรากว่า 10 มาตราแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยศึกษาและรวบรวมไว้ตอนเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ วิเคราะห์ศึกษาบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน แต่ขณะนี้ประเด็นที่ตนเองรวบรวมนั้น ยังอยู่รหว่างการปรับปรุงประเด็นเพิ่มเติมอีก จึงยังเปิดเผยไม่ได้ทั้งหมดว่า จะมีประเด็นใดเสนอแก้ไขบ้าง แต่ในหลักการแก้ไขเพิ่มเติมของตนเองนั้น จะต้องไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ  แก้ไขในส่วนที่ไม่ต้องทำประชามติ หรือเกิดความขัดแย้ง และจะยังไม่มีการแก้ไขในมาตรา 256 ที่เป็นเรื่องการลงมติวาระ 3 เพราะพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทยและ ส.ว. คือ 3 เสาหลักในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ตนจะใช้ช่วงเวลาในการช่วงการปิดสมัยประชุม รับฟังความเห็นจาก ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ และนำเสนอต่อพรรคก่อนจะพูดกับพรรคเพื่อไทย และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เพราะต้องการความเสียงสนับสนุนในการโหวตแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 3 และมาตรา 256 ที่ ส.ว.และพรรคเพื่อไทยอาจมีความเห็นในมุมมองที่ต่างกันดังนั้นจำเป็นต้องหารือสร้างความเข้าใจกัน “เสียงของพรรคเพื่อไทยและ ส.ว.มีความสำคัญมากในโหวตเพื่อให้การแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตราได้สำเร็จ”  เมื่อถามถึง กรณีที่ 3 พรรคร่วมรัฐบาล คือพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา ในการจะทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ร่วมกันนั้น นายไพบูลย์  กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคอื่นที่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกับที่พรรคพลังประชารัฐก็จะเสนอให้มีการแก้ไขเป็นรายมาตรา เมื่อถามย้ำว่า  จะจัดทำและเสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ  ไม่ขอพูดเรื่องนี้ในนามวิปรัฐบาล ขอให้ความเห็นในส่วนของพรรคและตนเองที่ดำเนินการอยู่เท่านั้น