กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Pradubpan Joonwangso ได้โพสต์เรื่องราวระบายความในใจลงเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องที่มีช้างบุกเข้ามาทำร้ายแม่ของตนเองในขณะที่เข้าไปทำสวนทุเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านของตนเองจนเสียชีวิต อ.เขาชะเมา จ.ระยอง แต่ไม่ได้รับการการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย นายประดับพันธ์ ลูกชาย ได้บอกว่า ช้างที่ทำร้ายคุณแม่จนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ อยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่ของแม่ผมเอง เป็นโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งคนในพื้นที่รู้ดีครับว่าช้างที่ออกมาเพ่นพ่านคือช้างที่ถูกปล่อย ไม่ใช่ช้างป่าแบบที่พยามออกข่าวกัน ส่วนช้างเป็นของคนที่สูงส่งจนผมและคนในพื้นที่ไม่สามารถแตะต้องได้ โดยอ้างว่าคนต้องอยู่ร่วมกับช้างได้ ปกติก่อนหน้านี้ 2 - 3 ปี ไม่เคยมีช้างออกมาให้เห็นเลยนะครับ แต่นี่ช้างมาทำร้ายแม่ผมถึงที่ของตนเอง ผมเหมือนเสียเสาหลักของบ้านไปแบบกระทันหัน ผมต้องแบกรับความสูญเสียและรับผิดชอบทุกสิ่งในบ้านเพียงคนเดียว พร้อมกับดูแลพ่อของผมที่เป็นมะเร็งระยะสี่ ผมได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆน้อยมาก ผู้หลักผู้ใหญ่บางคนมางานศพแม่ผมเพื่อมาถ่ายรูปกับพวงหรีด โดยไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ วันนี้ผมได้ไปประชุมกรรมาธิการช้าง ที่ อ.วังจันทร์ มี สส.ผู้ทรงเกลียดมามากมาย เมื่อผมขอพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องชดเชย การแก้ปัญหาหลังจากนี้ และความในใจในการสูญเสียของผม พวกเขากับทำท่าทีแบบขอไปทีพยามกันไม่ให้ผมพูด การสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงสำหรับผม แต่ได้รับการเหลียวแลน้อยกว่าที่ควรจะได้รับ พวกเขาแค่เอาหน้าเสนอหน้ามาแค่ฉาบฉวย ไม่กล้าแตะต้องมากเพราะรู้ว่าเป็นช้างของใคร อยากให้ทุกคนช่วยแชร์ให้ผมหน่อยครับ อย่างน้อยเพื่อให้เป็นแรงกระเพื่อม และเราถูกกดขี่จากคนที่แตะต้องไม่ได้กันมานานขนาดไหน ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในตำบลน้ำเป็น อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เป็นเขตชุมชน รถวิ่งแทบจะ 24 ชม.