เรียกว่าเป็นดีเจอารมณ์ดีอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิงไทยสำหรับ ดีเจเอกกี้-เอกชัย ถึงแม้จะไม่เปิดเผยเรื่องความรักแบบตรงๆ ให้คนที่สงสัยรู้ ล่าสุดเจ้าตัวยอมออกมายอมรับว่า ซุ่มคุยหนุ่มนอกวงการมานานถึง 2 ปีแล้ว พร้อมเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ปิ๊งรักกัน ผ่านทางรายการคุยแซ่บSHOW ช่องวัน 31 โดยระบุว่า....
"ตอนนี้โสด มีคนคุย คนนี้ประมาณ 2 ปีแล้ว คนนอกวงการเพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยยุ่งคนในวงการ ไปเจอที่ไหนจำไม่ได้ มีการแลกไลน์กันและคุยกันมาจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่เรียกแฟน เรียกกัลยาณมิตร เราไม่ค่อยไปไหนด้วยกัน ต่างคนต่างทำงานเยอะมาก เวลาเรามีปัญหาอะไรก็ตามก็จะมีคนๆ นี้ตลอด"
"อายุห่างกันประมาณ 7 ปี เขาน้อยกว่า คบด้วยแล้วสบายใจ ไม่ได้มีความคาดหวังหรือผูกมัดว่าจะต้องเป็นอะไรกัน มันมีความสุข ถ้าเรามีแฟนผูกมัดกันแต่ไม่เคยมีความสุขเลยมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง"
"รูปร่างหน้าตาเขาสะอาดสะอ้าน เรื่องอาหารการกินคือดูแลตัวเองดีมาก เขาทำงานเยอะมาก บางทีเยอะกว่าเราอีก ถ้าว่างตรงกันก็มีไปทานข้าวกัน ต่างคนต่างมีชีวิตส่วนตัว เราสองคนรู้กันว่าความสัมพันธ์นี้มันมีความสุขแบบนี้ เขาเป็นคนขาวคมๆ สูงกว่าเรา"
ไม่อยากเปิดเผย ไม่เคยจับมือ ไม่เคยมีอะไรเกินเลย
"เราเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผย เขาก็น่าจะเฉยๆ เขาไม่เคยพูดด้วย มือยังไม่เคยจับเลยแค่กอดให้กำลังใจกัน ไม่มีเรื่องอย่างนั้นเลย ถึงบอกว่าไม่ใช่แฟนแต่เป็นกัลยาณมิตร เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อน (2 ปีมีแค่การกอด?) เราเป็นคนไม่เริ่มด้วยไง แล้วเขาก็ไม่เริ่ม ถ้าเธอพร้อมฉันก็พร้อม"
"จริงๆ มันมีที่มาแต่เราไม่รู้มันเป็นปมหรือเปล่า หมอดูทุกคนจะทักเรา เอกกี้ไม่ควรมีแฟน ถ้าไม่มีแฟนงานจะดี ทุกอย่างจะดี ถ้าเรามีแฟนทุกอย่างจะแย่ ซึ่งเราก็รู้ตัวด้วย (ถ้ามีสัมพันธภาพเรียกเพื่อนได้มั้ย?) ถ้ามีมันจะเรียกแฟนไง มันไม่อยากมี"
ถ้าอีกฝ่ายรอนานแล้วรอไม่ไหวไปมีคนใหม่ตนคงรู้สึกโหวงๆ
"มันต้องมีเหตุการณ์นี้ก่อนถึงจะรู้ เราไม่รู้ว่าตัวเองยังไง มันคงจะโหวงๆ แต่ไม่ได้ดิ้นทุรนทุรายเหมือนเลิกกับแฟน เพราะมันมีสเปซอยู่ อดีตเคยมีแฟนที่ผ่านมาไม่ประสบผลสำเร็จเลย บางคนก็เลิกรากันไม่ได้ เราเป็นคนขี้หึงมากด้วย"
"มีแฟนคนนึงค่อนข้างเจ้าชู้แหละ สืบได้ว่าไปดูหนังกันอีกคน เราก็สืบบ้านได้ ขับรถไปรอในหมู่บ้าน เห็นรถมาแล้วเราซุ่มนั่งเงียบอยู่ในรถ เราจะไม่เอาเรื่องมือที่สาม เขาอาจจะไม่รู้เรื่องก็ได้ ก็รอจนเขาส่งเสร็จปาดหน้าละชี้หน้า ฉันรู้นะ ละแฟนก็ง้อๆๆ ก็ดีกัน เป็นแบบนี้ประมาณ 30 ครั้ง"
มีอดีตที่ทำให้ช้ำ เคยอยู่ในลิฟต์กับแฟนกับกิ๊ก
"อันนี้คืออีกคนนึง สืบทราบได้ว่าแปลกๆ นะ ขอเข้าไปหาหน่อย ก็เจออยู่กันที่บริษัทนึง เราก็บอกเดี๋ยวไปเอ็มโพเรียมกันให้กิ๊กได้ยินด้วย เดินมาเข้าลิฟต์ กิ๊กคนนั้นเดินเข้ามาในลิฟต์ด้วยมองเราผ่านกระจก เราก็คุยกับแฟนปกติ"
"กิ๊กไปนั่งอยู่ที่ลานจอดรถ พอรถลงมาเขานั่งมองและโทร.หาแฟนฉันตลอด ฉันรับบอกว่าเขามีแฟนแล้วเลิกเถอะ แฟนก็เลือกเรา แต่พอมา 6 เดือน เขาสารภาพว่าคบกับกิ๊กคนนี้อยู่ เราก็เลยตัดออกจากชีวิตเลย ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนกันเพราะเขามาขอโทษฉัน มันเลยจุดโกรธไปแล้ว"
เผยความรักที่เจ็บสุดในชีวิต
"กับคนที่ 1 กับคนที่ 4 คือรักครั้งแรกเหมือนเราคบกับแบดบอย ทะเลาะกันทุกวัน ทุกเรื่อง ทะเลาะเลิกร้องไห้เป็นเดือน เพราะตอนนั้นยังเด็กด้วย ครั้งที่ 4 รักมากเหมือนกัน พอง้อก็ดีๆ (ค้างใจจนไม่กล้าเรียกแฟนแล้ว?) เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันมีความสุข ไม่มีแฟนมา 10 ปีกว่า แต่มีกิ๊กที่คุยหนุกหนาน"
เผยเรื่องเดียวที่ทำให้เสียน้ำตาคือการสูญเสียพ่อ ทุ่มเงินรักษา 15 ล้าน
"เรื่องคุณพ่อ คุณพ่อเสียตอนมิถุนายนปีที่แล้ว คุณพ่อเป็นโรคไต ฟอกไตมาประมาณ 9 ปีแล้ว เราก็รู้แหละว่าผู้ป่วยฟอกไตเขาจะอยู่ได้ประมาณ 10 ปีขึ้นไป คือมากสุด บางทีเราก็คุยกับพี่น้องเหมือนกันว่าต้องทำใจ แต่บางทีที่เราคุยเราก็เตรียมใจ แต่พอมันเกิดขึ้นมันก็ยาก ชีวิตเราเหมือนอยู่กับคุณพ่อคุณแม่มาตลอด ถึงแม้ว่าแยกบ้าน แต่อย่างน้อยเรากลับไปบ้าน เราได้เห็นหน้าเขาได้ยินเสียงเขา จนวันนึงหลังจากนี้ไม่มีเขาแล้ว คิดแล้วมันโหวงๆ"
"ทุกวันนี้ไม่กล้าไปโรงพยาบาลเลย เพราะช่วงที่เราดูแลคุณพ่อและเป็นหนัก เราอยู่กับเขาตลอด เข้าออกไอซียูประมาณ 3-4 ครั้ง เวลาเราพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลเห็นคนอายุสัก 70 เดินกายภาพ เราก็จะแบบ ไม่ค่อยอยากไป"
"ค่ารักษา 15 ล้าน คือคุยกันถึงขนาดเปลี่ยนไตเลยไหม ก็ทำได้ แต่ด้วยความที่คุณพ่อเป็นตอนอายุเยอะแล้ว ฟอกดีกว่าอยู่ได้นาน (ยิ่งทำให้เราดูแม่ดีขึ้นไปอีก?) ห่วงทุกอย่างจนเกรงใจแม่ ต้องถามไปไหนๆ เพราะนี่คือหัวใจของเรา หัวใจของลูกๆ ทั้ง 5 คน อยากให้คุณแม่อยู่กับเรา 100 ปีไปเลย เพราะทุกวันนี้ทำงานกำลังใจอย่างนึงที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้ ทำงานตรงนี้ได้คือคุณแม่เลยนะ"