รวบโจรช้ำรักงัดบ้าน รอง ผอ.สพป.อุดรธานีขโมยปืนและสิ่งของมีค่า สารภาพอกหักเลยต้องตระเวนงัดบ้านหาเงินซื้อเหล้าดื่มและเอาไปใช้จ่าย เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 มีนาคม 2564 พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังจับกุมนายพิษณุ ทิพมนต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.ม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ผู้ต้องหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน” ของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ขขธ 395 หนองคาย หมวกกันน๊อค เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืนสั้นยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 5 นัด แม็กกาซีน 2 อัน โดยจับกุมได้ที่หอพักมีชื่อแห่งหนึ่ง ในซอยพลนามอินทร์ ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ออกไปสอบสวนเหตุลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 555/1 หมู่ 2 ต.บ้านจั่น ซึ่งเป็นบ้านนายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 โดยในช่วงเช้านายพิจิตรและภรรยาไปทำงาน ส่วนลูกไปโรงเรียน จึงได้ปิดบ้านไว้ กระทั่งเลิกงาน ภรรยากลับมาบ้านพบประตูหลังโดนงัด โจรเข้ามารื้อค้นและลักทรัพย์สิน สุรา สว่านไฟฟ้า มีอาวุธปืนยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม.1 กระบอก ส่วนปืนยาวอีก 2 กระบอก พบว่าคนร้ายเอาไปซุกซ่อนหลังตู้ บริเวณหลังบ้าน หลังได้รับแจ้ง ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุและหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือนายพิษณุ จึงเข้าจับกุม ได้พร้อมของกลาง จากการสอบสวน นายพิษณุ ให้การรับสาภาพว่า ตนเคยเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อปี 54-55 เมื่อปลดประจำการ ได้กลับไปทำงานที่บ้าน พอปี 2563 ได้มาสมัครเข้าทำงานเป็นลูกจ้างในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เงินเดือน 8,000 บาท ต่อมาตนอกหักเพราะแฟนสาวที่รักกันมา 10 ปี บอกเลิกและหนีไปมีคนใหม่ ทำให้ตนเสียใจ จึงหันมาดื่มเหล้าเพื่อคลายความเจ็บช้ำและเสียใจ พอดื่มหนักเข้าก็ทำให้เงินไม่พอใช้ ตนจึงก่อเหตุตระเวนงัดบ้านลักทรัพย์ โดยเลือกบ้านที่มีฐานะ ไม่มีคนเฝ้าและคล้องกุญแจประตูรั้วไว้ เพราะคิดว่าบ้านเหล่านี้จะมีทรัพย์สินมากและอาวุธปืนที่ตนชื่นชอบเป็นส่วนตัวด้วย ซึ่งตนเคยใฝ่ผันอยากเป็นทหาร ตำรวจ เคยไปสอบแต่ไม่ได้ ช่วงปีใหม่ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุงัดบ้านที่ อ.เพ็ญ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ได้ทรัพย์สินและปืน 2 กระบอก นำปืนไปจำนำที่บ้านเพื่อน ใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เพื่อนำเงินมาซื้อเหล้าดื่มเพื่อให้ลืมแฟนสาวที่เลิกกันไป พอเงินหมดก็มาก่อเหตุที่บ้าน รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 1 โดยก่อนก่อเหตุ ประมาณ 1 สัปดาห์ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำบุญที่วัดข้างบ้านที่เกิดเหตุ และเห็นบ้านหลังใหญ่โตคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สิน วันเกิดเหตุตนได้ดื่มเหล้าย้อมใจ เสร็จแล้วขี่รถจักรยานยนต์มาวนดูบ้านผู้เสียหายหลายรอบ จอดรถหน้าประตูรั้วพบกุญแจคล้องไว้ ทำให้มั่นใจว่าไม่มีคนอยู่ จึงขี่รถไปจอดข้างบ้านแล้วเดินไปหลังบ้านปีนกำแพงรั้วเข้ามาลักทรัพย์สิน พบปืนสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก ปืนยาว 2 กระบอก ที่ตนชอบ ตนลักเอาปืนสั้นกระบอกเดียว เพราะปืนยาวไม่มีกระเป๋าใส่เพราะถ้าถือหรือสะพายออกไปจะมีคนเห็น จึงนำไปซ่อนไว้ตู้หลังบ้าน เพื่อจะย้อนกลับมาเอาวันหลัง ส่วนเหล้าตนได้นำมาดื่ม และเที่ยวเตร่ ส่วนปืนนั้นตนกำลังจะไปจำนำก็มาถูกจับก่อน ด้าน นายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับโจรได้ พร้อมติดตามอาวุธปืน 9 มม.คืน เพราะตลอดเวลาปืนหายไป ตนกังวลใจมาก เกรงว่าโจรจะนำปืนไปก่ออาชญากรรม จะทำให้ตนเดือดร้อนไปด้วย ขอบคุณตำรวจอุดรธานี ที่ติดตามจับกุมคนร้ายและนำปืนมาคืนตนได้ ถือว่าตำรวจอุดรธานีเก่งไม่แพ้ตำรวจที่อื่น.