"ไพบูลย์" ชี้ ตั้ง ผอ.พศ.คนใหม่ เป็นขบวนการตัดตอนตรวจสอบเงินทอนวัด แนะ รัฐบาลต้องไม่เลือกปฏิบัติ วันที่ 6 ก.ย. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า การย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมีการแต่งตั้งนายมานัส ทารัตน์ใจ จากอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มาดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ.คนใหม่ แทน เป็นกระบวนการของพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ต้องการให้ยุติการขยายผลการตรวจสอบเรื่องเงินทอนวัดที่ไปถึงวัดใหญ่ ระดับกรรมการ มส.เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งมีปัญหาในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ปีละ 600 ล้านบาท ที่อ้างว่านำไปใช้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่ง ผอ.พศ. คนเดิมที่ถูกย้าย ได้ตรวจสอบพบความไม่โปร่งใส ไม่มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าใช้เงินของรัฐไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ประการสำคัญมีการตรวจสอบพบว่า งบประมาณอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรมปีละ1,200 ล้านบาท นอกจากมีเจ้าอาวาสหลายวัด ทุจริตปั้นตัวเลขนักศึกษามาเบิกงบหลวงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นปรากฏว่ามีหลักฐานชัดเจน วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ 3 วัด ที่เจ้าอาวาสเป็นกรรมการ มส.เบิกงบเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งที่ไม่ปรากฏว่ามีโรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ในวัดนั้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตอย่างแน่นอน ผิดทั้งกฎหมาย และล่วงละเมิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีขบวนการของพระผู้ใหญ่ ต้องการกลบความผิด ใช้วิธีตัดตอนกดดันให้รัฐบาลเปลี่ยนตัว ผอ.พศ.คนใหม่ เอาคนที่ไม่มีประวัติทำงานด้านตรวจสอบความถูกต้อง โปร่งใสใดๆมาทำงานเพื่อรอเกษียณปีหน้า แต่มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นการปฏิรูปคณะสงฆ์ ออกมาตำหนิรัฐบาลในการย้าย ผอ.พศ. ครั้งนี้กันมากมาย และเรียกร้องให้การตรวจสอบการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ของเจ้าอาวาสวัดต่างๆต้องดำเนินต่อไป รัฐบาลต้องไม่เลือกปฎิบัติ ทั้งนี้ ตนจะติดตามเรื่องทุจริตเงินทอนวัด และเรื่องบัญชีรับจ่ายวัดให้มีการเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ต่อไป