เกษตรฯ เร่งขับเคลื่อน "5 ยุทธศาสตร์ เฉลิมชัย" พลิกโฉมหน้าภาคตะวันออก "อลงกรณ์" มอบ AIC 5 จังหวัด จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว เดินหน้าสร้างอุตสาหกรรมเกษตรอาหารโมเดลซิลิคอนวัลเลย์เน้นเทคโนโลยีเกษตร พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "กัญซ่า" และโดรนเกษตรเมดอินไทยแลนด์ เร่งวางโรดแม็ปกลยุทธ์ โลจิสติกส์เกษตรระบบรางเปิดประตูตะวันออกสู่อินโดจีนและตลาดโลก
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) แถลงถึงความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนศูนย์นวัตกรรมเกษตรและเทคโนโลยี (AIC) สัญจร พื้นที่เขตตรวจราชการที่ 9 ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ผศ.ไวกูณฑ์ ทองอร่าม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผศ.ดร.วิชุดา จันทร์ข้างแรม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพาวิทยาเขตสระแก้ว นายชรัตน์ เนรัญชร ตัวแทน Young Smart Farmer ผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตัวแทนภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคเกษตรกร เข้าร่วมในการประชุมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ซึ่งมีนิทรรศการแสดงเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมของศูนย์ AIC ทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งจะได้นำไปพิจารณาต่อยอดและทำ Business matching การสนับสนุนทุนวิจัยและนำเข้าสู่ Innovation Catalog เพื่อใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรต่อไปโดยมีการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและผลงานของ AIC ได้แก่
1) ศูนย์ AIC จังหวัดจันทบุรี โดย ผศ.ดร.สินาด โกศลานันท์ ตำแหน่ง คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผู้อำนวยการศูนย์ AIC จังหวัดจันทบุรี
2) ศูนย์ AIC จังหวัดตราด โดย ดร.กรรณิกา สุภาภา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนตราด ประธานศูนย์ AIC ตราด
3) ศูนย์ AIC จังหวัดนครนายก โดย ผศ.ดร.อรัญญา มิ่งเมือง ตำแหน่ง คณบดีคณะเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์การเกษตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ AIC จังหวัดนครนายก
4) ศูนย์ AIC จังหวัดปราจีนบุรี (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) โดย นายสุรเทพ กิจกล้า ตำแหน่ง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี เลขาศูนย์ AIC จังหวัดปราจีนบุรี
5) ศูนย์ AIC จังหวัดสระแก้ว โดย ดร.ประทีป อูปแก้ว มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ AIC สระแก้ว
นายอลงกรณ์ ยังได้แสดงความชื่นชมการดำเนินงานของศูนย์ AIC ทุกแห่งที่ได้พัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกษตรที่โดดเด่น เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาภาคการเกษตรในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาการผลิตอากาศยานไร้คนขับของศูนย์ AIC จันทบุรีที่ผลิตขึ้นใช้เองภายในประเทศ (Made In Thailand) เพื่อใช้ในการเกษตรกรรมแม่นยำ (Precious Agriculture) และสนับสนุนการเป็น Silicon valley เมืองหลวงแห่งผลไม้ การแปรรูปผลไม้ของมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก โมเดลการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรสู่ฟาร์มเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ของศูนย์ AIC นครนายก การพัฒนาระบบฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farming) ของวิทยาลัยชุมชนซึ่งเป็นศูนย์ AIC จังหวัดตราด การพัฒนาพันธุ์กุ้งก้ามกรามกุ้งขาวของมหาวิทยาลัยบูรพา ตอบโจทย์ประมงเพาะเลี้ยงและอุตสาหกรรมอาหารการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กัญซ่า” เครื่องดื่มแนวใหม่ (functional drink) จากกัญชาของศูนย์ AIC ปราจีนบุรี โดยประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ต่อไป เพื่อชูจุดเด่น “ปราจีนบุรีเมืองแห่งสมุนไพร”
ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนกระทรวงภายใต้กรอบ "5 ยุทธศาสตร์ เฉลิมชัย" ได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต 2.ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 3.ยุทธศาสตร์ “3’s” (Safety-Security-Sustainability) เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง และเกษตรยั่งยืน 4.ยุทธศาสตร์การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโมเดล “เกษตร-พาณิชย์ทันสมัย” และ 5.ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา
ส่วนความก้าวหน้าของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและตอบโจทย์ตลอดห่วงโซ่ของผลผลิตการเกษตร โดยขณะนี้ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร (Food & Agro industry promotion subcommittee) และคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดับภาค 5 ภาคภายใต้ 2 โครงการหลักคือ 1) โครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารใน 18 กลุ่มจังหวัด เพื่อกระจายการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารเพิ่มการแปรรูปสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรครอบคลุมทุกจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัดตามศักยภาพและอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ และ 2) โครงการเกษตรอัจฉริยะเกษตรแม่นยำ 2 ล้านไร่ โดยใช้เทคโนโลยีและเกษตรแปลงใหญ่เป็นแกนขับเคลื่อนร่วมกับกิจการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Big Brothers) โดยในเขตกลุ่มจังหวัดนี้มีศักยภาพสูงมากในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรผลไม้ สมุนไพร ประมง พืชอนาคต กัญชงกัญชา เครื่องจักรกลเกษตรเป็นต้นโดยมีต้นแบบจากเขตอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปครบวงจรในจังหวัดชลบุรีและในเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor:EEC) พร้อมมอบหมายให้คณะ กรกอ.ภาคตะวันออกขับเคลื่อนโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรม เขตผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหรือเขตชุมชนอุตสาหกรรมนับเป็นเขตอุตสาหกรรมอาหารเป็นโซนที่ 9 ซึ่ง AIC จันทบุรีสนใจที่จะพัฒนาซิลิคอนวัลเลย์ (SILICON VALLEY) ผลไม้ภายใต้คอนเซ็ปท์ “มหานครผลไม้” ในรูปแบบเดียวกับที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดดำเนินการสร้าง SILICON VALEY แห่งเทคโนโลยีในแคลิฟอเนียสหรัฐอเมริกา
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า การพัฒนากลุ่มจังหวัดนี้จะต้องผนึกศักยภาพกับทาง EEC 3 จังหวัด +5 จังหวัดตามแผนพัฒนาเชื่อมโยงภาคการเกษตรโดยใช้ศักยภาพ การเป็นประตูเศรษฐกิจสู่ตลาดอินโดจีน ได้แก่ กัมพูชา ลาว และ เวียดนาม ที่มีตลาดรองรับด้วยประชากรกว่า 120 ล้านคน ซึ่งอยู่ติดพรมแดนภาคตะวันออก คือจันทบุรี ตราด และสระแก้ว พร้อมทั้งเชื่อมภาคตะวันออก-เชื่อมโลกด้วยเส้นทางโลจิสติกส์การขนส่งสินค้าไปทุกมณฑลในจีนและผ่านจีนสู่ภูมิภาคเอเซีย, ยุโรป และรัสเซีย ด้วยระบบรางโดยผ่านด่านโมฮ่านเส้นทาง ไทย-ลาว-จีน และผ่านด่านผิงเสียงบนเส้นทาง ไทย-ลาว-เวียดนาม ซึ่งจะเป็นระบบการขนส่งใหม่รับมือมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศที่ต้องขนส่งสินค้าผ่านและในประเทศคู่ค้า แนวทางทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของ “5 ยุทธศาสตร์ การพัฒนาภาคเกษตรกรรม” ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาภาคตะวันออกสู่มิติใหม่ๆ อย่างเต็มรูปแบบ