ก้อนน้ำมันยังทะลักทะเลหัวไทรต่อเนื่องกว่า 1 สัปดาห์แล้วชาวประมงเผยระยะ 5 กม.จากฝั่งน้ำเสียหนัก หลายฝ่ายเริ่มทยอยลงพื้นที่-พลังงานจังหวัดเผยครั้งก่อนมีผลตรวจอัตลักษณ์น้ำมันไม่ตรงกับหลุมขุดเจาะในอ่าวไทย
ภาพมุมสูงที่ชายหาดในอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช สภาพก้อนน้ำมันปริศนา ยังคงถูกคลื่นลมพัดพาเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่อง ก้อนน้ำมันจำนวนไม่น้อยไปติดอยู่ที่กองหินแนวกันคลื่นจนมีสีดำคล้ำอย่างเห็นได้ ส่วนที่หลุดรอดเข้ามาถึงฝั่งได้ ยังคงถูกซัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงที่มีน้ำขึ้นสูง ส่วนที่เกยหาดแล้วจะถูกแดดเผาจนละลายกลายเป็นของเหลวสีดำคล้ำซึมลงไปบนหาดทราย และยังส่งผลให้ทรายจับตัวเป็นก้อนดำ โดยปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งของอำเภอหัวไทรมากกว่า 1 สัปดาห์แล้ว และพบว่ายังเกิดขึ้นยาวตลอดชายหาดไปจนถึงเขตอำเภอระโนด สทิงพระ และสิงหนคร ของจังหวัดสงขลาอีกด้วย
นางนิสาจิตต์ เจะดูหมัน อายุ 40 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน ระบุว่าสภาพน้ำทะเลสกปรกจากน้ำมันอย่างมากในระยะ 5 กิโลเมตรจากฝั่งชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถทำประมงได้เลย เนื่องจากเต็มไปด้วยคราบน้ำมันที่ลอยบนผิวน้ำเมื่อวางอวนลงไปอวนจะไม่สามารถใช้การได้อีกจากน้ำมันที่เข้ามาจับตัวที่อวน ชาวประมงต้องออกไปจนถึงแนวปะการังเทียมเพื่อทำประมง แต่มีสัตว์น้ำน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากสภาพกลิ่นของน้ำมันเป็นตัวทำให้ปลาย้ายถิ่นออกไปยิ่งทำประมงได้ยากขึ้น
วันเดียวกัน พันเอกภัทรชัย แทนขำ รองเลขานุการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 4 พร้อมด้วยนายสุรเชษฐ์ หรดี พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอหัวไทร ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ โดยนายสุรเชษฐ์ หรดี พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งข้อมูลว่าผลตรวจสอบก้อนน้ำมันที่ถูกเก็บเมื่อปลายมรสุมปีที่ผ่านมา มีผลวิเคราะห์ทางอัตลักษณ์ที่ไม่ตรงกับแหล่งขุดเจาะที่อยู่ในอ่าวไทย จึงไม่สามารถตอบได้ว่าต้นตอของน้ำมันเหล่านี้มาจากแหล่งใด หรือด้วยวิธีการใด แต่ในวันนี้เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดจะเข้าเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันเพื่อเข้ากระบวนการตรวจสอบอีกครั้ง