วันที่ 17 มี.ค. ที่ ท่าเรือ คานเบอร์ 5 อุตสาหกรรมประมงจังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมต้อนรับ พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน พร้อมคณะฯ ในการลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจสอบซากเรือประมงที่จอดทิ้งไว้กลางแม่น้ำปัตตานี จำนวน 65 ลำ เบื้องต้นพบสภาพปัญหาหลายประการ ประกอบด้วย ปัญหาแม่น้ำปัตตานีตื้นเขิน โดยเกิดจากการเพิ่มขึ้นของตะกอนจากการชะล้างพังทลายของดินจากที่สูง การปรับสภาพคูคลองระบายน้ำ และการจอดขวางของซากเรือดังกล่าว ทำให้ปิดกั้นช่องทางการไหลของน้ำ ซึ่งเกิดผลกระทบต่อชาวประมงจังหวัดปัตตานีอย่างมาก พร้อมกันนี้ยังได้ประชุมหารือกับทุกส่วนราชการ เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหากรณีปัญหามาตรการในการบริการจัดการซากเรือประมงสัญชาติเวียดนามซึ่งเป็นของกลางที่ถูกจับดำเนินคดีมาจอดทิ้งไว้ในบริเวณแม่น้ำปัตตานี จังหวัดปัตตานี และกรณีศึกษาปัญหาและผลกระทบของการทำประมงภายใต้กฎหมายประมง โดยมี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี, ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมประมง, ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี, สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 (ปัตตานี), สำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับพร้อมร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการประชุมพิจารณามาตรการในการบริหารจัดการซากเรือประมงดังกล่าว เนื่องจากทำให้ร่องน้ำตื้นเขิน เป็นปัญหาอุปสรรคในการเดินเรือ จึงมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน และประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเรือของกลางให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เร่งรัดประเมินราคา และขายทอดตลาด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ย้ำในที่ประชุมว่า เรือส่วนใหญ่ที่ดำเนินคดีเสร็จเรียบร้อย และตกเป็นทรัพย์ของแผ่นดินแล้วนั้น จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดทิ้งต่อไป อย่างไรก็ตามต้องมีหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบหลัก หรืออาจจะมีวิธีการที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ อีก เช่น อาจขนย้ายนำไปเป็นบ้านปลา - บ้านปะการังใต้ทะเล บางลำอาจต้องนำไปทำลาย โดยทุกกระบวนการต้องเป็นไปตามความถูกต้องของกฎหมายต่อไป