ความคืบหน้าภารกิจติดตามจับตัวจระเข้ที่พบบริเวณอ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ตเป็นวันที่ 4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้( 16 มี.ค. 64 )ทีมจับจระเข้ ซึ่งนำโดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และชาวประมงในพื้นที่ ต.ฉลอง และตำบลราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต รวมกว่า 40 คน นำเรือพร้อมอวนหลายขนาดเข้าล้อมจับจระเข้ หลังจากออกติดตามตลอดทั้งวัน จนพบว่าขึ้นโผล่เหนือน้ำก่อนดำหายในทะเลบริเวณหน้าชายหน้าบ้านบางคณฑี หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ (พื้นที่รอยต่อทางทะเลของ ต.ฉลอง และต.ราไวย์) ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ควบคุมเรือยอร์ช ท่าเรือฉลองไปประมาณ 700 เมตร โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอเมืองภูเก็ต และประมงจังหวัด ร่วมสังเกตุการณ์อยู่บนเรือ
ทั้งนี้ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯรอจังหวะให้จระเข้ขึ้นหายใจเหนือผิวน้ำหลายครั้ง จนทราบพิกัดชัดเจน ก่อนนำเรืออวนเข้าวางอวนโดยตีวงล้อมเป็นวงกว้างๆ ในชั้นแรก เพื่อปิดทางไม่ให้จระเข้หลบหนี จากนั้นใช้เรืออวนอีกชุดเข้าตีวงล้อมภายในให้แคบลง เพื่อจำกัดพื้นที่ โดยระหว่างที่เข้าวางอวนล้อมภายในพบว่าจระเข้ขึ้นโผล่เหนือน้ำและพยายามดันอวนบางจุดให้เห็นเป็นระยะ กระทั่งวางอวนชั้นที่สองภายในจำกัดพื้นที่ให้แคบลงเสร็จสิ้น จึงค่อยใช้เรือและกำลังคนเข้าต้อนจระเข้และบีบให้อวนแคบลง ในที่สุดเมื่ออวนทั้งสองด้านแคบลง กลับไม่พบตัวจระเข้ คาดว่าจะอาศัยช่วงที่จนท.กระชับวงล้อม มุดอวนออกไปได้อีกเป็นครั้งที่ 3
โดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี เปิดเผยหลังภารกิจว่า สำหรับการติดตามจับจระเข้ตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามติดตามกดดันอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งมีโอกาสล้อมอวนหลายครั้ง แต่ก็สามารถมุดหนีออกไปได้ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน จระเข้หลบหนีไปได้ทั้งที่อยู่ในวงล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอด ตนเองจึงต้องทบทวน พยายามปรับจุดด้อย โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้เหมาะสม และให้สามารถจับตัวได้อย่างรวดเร็ว
นายนิคมกล่าวอีกว่า เมื่อช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา( 15 มี.ค.)ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามจนพบว่าจระเข้กำลังเข้าไปริมชายฝั่ง ซึ่งถือเป็นความโชคดี จึงพยายามต้อนจนเกือบขึ้นฝั่งสำเร็จ แต่บังเอิญมีรถขับเข้ามาในบริเวณดังกล่าวทำให้จระเข้ตกใจหนีกลับลงทะเลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งปรับแผนใหม่อีกครั้ง เบื้องต้นในคืนนี้จะพักการติดตามจระเข้เพื่อให้ทีมจับจระเข้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และจะเริ่มเข้าพื้นที่อีกครั้งในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.64 ) อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากตำแหน่งที่พบล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่จระเข้จะมุ่งไปยังพื้นที่อื่น โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ราไวย์ จึงต้องมีการขอความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆพื้นที่ในการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯรอจังหวะให้จระเข้ขึ้นหายใจเหนือผิวน้ำหลายครั้ง จนทราบพิกัดชัดเจน ก่อนนำเรืออวนเข้าวางอวนโดยตีวงล้อมเป็นวงกว้างๆ ในชั้นแรก เพื่อปิดทางไม่ให้จระเข้หลบหนี จากนั้นใช้เรืออวนอีกชุดเข้าตีวงล้อมภายในให้แคบลง เพื่อจำกัดพื้นที่ โดยระหว่างที่เข้าวางอวนล้อมภายในพบว่าจระเข้ขึ้นโผล่เหนือน้ำและพยายามดันอวนบางจุดให้เห็นเป็นระยะ กระทั่งวางอวนชั้นที่สองภายในจำกัดพื้นที่ให้แคบลงเสร็จสิ้น จึงค่อยใช้เรือและกำลังคนเข้าต้อนจระเข้และบีบให้อวนแคบลง ในที่สุดเมื่ออวนทั้งสองด้านแคบลง กลับไม่พบตัวจระเข้ คาดว่าจะอาศัยช่วงที่จนท.กระชับวงล้อม มุดอวนออกไปได้อีกเป็นครั้งที่ 3
โดย นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี เปิดเผยหลังภารกิจว่า สำหรับการติดตามจับจระเข้ตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามติดตามกดดันอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งมีโอกาสล้อมอวนหลายครั้ง แต่ก็สามารถมุดหนีออกไปได้ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน จระเข้หลบหนีไปได้ทั้งที่อยู่ในวงล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอด ตนเองจึงต้องทบทวน พยายามปรับจุดด้อย โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้เหมาะสม และให้สามารถจับตัวได้อย่างรวดเร็ว
นายนิคมกล่าวอีกว่า เมื่อช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา( 15 มี.ค.)ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามจนพบว่าจระเข้กำลังเข้าไปริมชายฝั่ง ซึ่งถือเป็นความโชคดี จึงพยายามต้อนจนเกือบขึ้นฝั่งสำเร็จ แต่บังเอิญมีรถขับเข้ามาในบริเวณดังกล่าวทำให้จระเข้ตกใจหนีกลับลงทะเลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งปรับแผนใหม่อีกครั้ง เบื้องต้นในคืนนี้จะพักการติดตามจระเข้เพื่อให้ทีมจับจระเข้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และจะเริ่มเข้าพื้นที่อีกครั้งในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.64 ) อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากตำแหน่งที่พบล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่จระเข้จะมุ่งไปยังพื้นที่อื่น โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ราไวย์ จึงต้องมีการขอความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆพื้นที่ในการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น