“บิ๊กตู่” ฉีดวัคซีนโควิด-19จากบริษัทแอสตราเซเนกา เข็มแรกของไทย ย้ำทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ยันเร่งดำเนินการให้ครอบคลุมประชาชนให้มากที่สุด “หมอยง”การันตี“วัคซีน” มีความปลอดภัย ลั่นเป็นการฉีกวัคซีนเพื่อชาติ “อนุทิน”ลั่นไทยไม่ขาดวัคซีนแน่ ระบุตั้งแต่ มิ.ย.จะเริ่มฉีดวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดส และภายในสิ้นปีนี้ประชาชนจะได้รับวัคซีนครอบคลุม ส่วนยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง 149 ราย ขณะที่ “จนท.-ปชช.-พ่อค้าแม่ค้า” ร่วมบิ๊กคลีนนิ่งตลาดบางแค ปิดล้างฆ่าเชื้อ 6 ตลาด
ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 16 มี.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นำรัฐมนตรีที่แจ้งความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยมี นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ฉีดวัคซีน จากบริษัท แอสตราเซเนกา ล็อตที่ A1 CTMAV 509 พร้อมสังเกตอาการหลังฉีด เป็นเวลา 30 นาที ทั้งนี้ นายกฯได้กล่าวชมนพ.ยงว่า “ฉีดแล้วหรือ มือเบา ไม่รู้สึกเจ็บเลย”
โดย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาครั้งแรกของประเทศไทย และยืนยันว่าทุกคนมีความสำคัญต่อครอบครัว จึงมีความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งหมด ไม่เพียงแค่นายกฯ และคณะรัฐมนตรีและขอย้ำว่า เราจะต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
“วันนี้ขอใช้โอกาสพูดคุย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และคลายสงสัยต่างๆ ที่ผ่านมาทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน 13 จังหวัด โดยมีผู้รับการฉีดแล้ว 50,388 ราย ซึ่งระยะต่อไป รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้ครอบคลุมประชาชนให้มากที่สุด
ด้าน นพ.ยง กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนที่ใช้ในโลกมีมากกว่า 10 บริษัท และได้ใช้ไปแล้วมากกว่า 350 ล้านโดสทั่วโลก ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้มีการวัคซีนไปแล้ว โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ตอนนี้เรามีวัคซีนอยู่ 2 บริษัทคือ ซิโนแวคและแอสตราเซเนกา ที่จะเริ่มฉีดในวันนี้ ตนขอให้ความมั่นใจว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในโลกเรานี้มีความปลอดภัย เพราะได้ผ่านการศึกษาตั้งแต่ขั้นสัตว์ทดลองมาจนถึงในมนุษย์ตามขั้นตอนและขอยืนยันว่าการฉีด วัคซีนครั้งนี้ เป็นการฉีดเพื่อชาติ และให้ชาติเราผ่านพ้นวิกฤตนี้
ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการบริหารจัดการวัคซีนของประเทศ ไทยโดยยืนยันว่า ประเทศไทยจะไม่มีการขาดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน โดยรัฐบาลได้สนับสนุนในทุกๆเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขร้องขอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจว่าจากนี้ไปวัคซีนจะถูกแพร่กระจายไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน โดยเราเริ่มกระจายวัคซีนไปทั่วทุกพื้นที่และ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป จะเริ่มฉีดวัคซีนเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดส และภายในสิ้นปีนี้ประชาชนจะได้รับวัคซีนครอบคลุม
ส่วนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 149 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 144 ราย และมาจากต่างประเทศ 5 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 27,154 ราย รักษาหายเพิ่ม 65 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงที่ 87 ราย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ฝ่ายเทศกิจ และเจ้าหน้าที่เขตบางแค รวมทั้ง พ่อค้า แม่ค้าแผงลอยหน้าตลาดบางแคและประชาชน ได้ร่วมใจกันปัดกวาดเช็ดถู ล้างทำความสะอาดแผงค้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ขุดลอกท่อ และฉีดไล่น้ำในท่อระบายน้ำในพื้นที่ตลาดโดยรอบ และกำหนดให้ปิดตลาดทั้ง 6 แห่ง เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 6-18 มี.ค.64 หลังจากนั้นจะประเมินผลจากการตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง หากพบว่า มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จะพิจารณาขยายเวลาปิดตลาดออกไป
วันเดียวกัน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ชุดเล็กวันที่ 17 มี.ค.นี้ จะมีการเสนอกรอบการผ่อนปรนให้จัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยวันนี้กระทรวงวัฒนธรรมจะมีการประชุมคณะกรรมการบูรณาการที่เกี่ยวข้องกับประเพณีสงกรานต์ ซึ่งจะมีแนวปฏิบัติที่ได้หารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว โดยจะอนุญาตให้มีการจัดสงกรานต์ได้ตามประเพณี เน้นแก่นแท้ของประเพณี เช่น การตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ส่วนกิจกรรมที่เป็นการละเล่นโดยเฉพาะการสาดน้ำและการปะะแป้งจะให้งดเว้นไปก่อน เนื่องจากยังมีความกังวลจากหลายส่วน รวมถึงกรณีเกิดคลัสเตอร์ใหม่ด้วย ทำให้กังวลว่าหากมีการสาดน้ำจะเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ โดยจะเสนอให้ ศบค. ชุดใหญ่พิจารณา 19 มี.ค. นี้
นายอิทธิพล กล่าวว่า กรณีที่เป็นสถานที่เอกชน ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด กรณีถนนข้าวสารสามารถปิดถนนได้ แต่ต้องงดสาดน้ำ ส่วนสรงน้ำพระ ขบวนแห่ต่างๆ ขอให้ดูตามความเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบประเพณีของแต่ละจังหวัด ที่ต้องดูจำนวนคนในขบวนแห่ต่างๆ ด้วย ส่วนเรื่องปาร์ตี้โฟมหรือกิจกรรมในสถานบันเทิงก็ต้องงดงการสาดน้ำ งดการเล่นน้ำด้วย ปีนี้ยังต้องขอให้เว้นไปก่อน เนื่องจากว่าวิเคราะห์แล้วมีความเสี่ยงเรื่องของการมีของเหลวเข้าสู่ร่างกาย เช่นเดียวกับงานวันไหล จ.ชลบุรี ที่มีการละเล่นพื้นบ้านและมีการสาดน้ำ ชัดเจนว่า ต้องงดการสาดน้ำ งดการปะแป้ง งดปืนฉีดน้ำ เช่นกัน