โจรไม่กลัวบาป!!! งัดตู้บริจาคภายในวัดอุดมมหาวัน (ป่าหลวง) ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จำนวน 2 ตู้ เอาเฉพาะเงินที่เป็นธนบัตรได้เงินไปประมาณ 1-2 พันบาท กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน ปั่นจักรยานมาจอดไว้ทางเข้าหน้าวัดใช้เวลาเพียง 15 นาที เบื้องต้นพอจะทราบตัวคนร้ายแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.50 น.วันนี้ (16 มี.ค. 64) ร.ต.ท.ราเชนทร์ น้อยบรรเทา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปงัดตู้รับบริจาคภายในวัดอุดมมหาวัน หรือป่าหลวง ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ให้ร่วมออกตรวจที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นศาลาสามัคคีธรรม พบมีตู้บริจาคถูกงัดจำนวน 2 ตู้ เงินที่เป็นธนบัตรประมาณ 1 - 2 พันบาทถูกคนร้ายเอาไปทั้งหมด เหลือเพียงเงินเหรียญเพียงเล็กน้อยที่ยังอยู่ภายในตู้ ตู้แรกที่เป็นตู้ไม้ซึ่งเป็นตู้รับบริจาคค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าบำรุงซ่อมแซมวัด ด้านหน้าที่ด้านข้างตู้เป็นพลาสติกใส ด้านหลังเป็นไม้ ถูกงัดด้านหลัง ส่วนอีกตู้ที่เป็นเหล็กถูกสกัดบริเวณจุดยึดกุญแจจนฉีกขาด และยังพบเครื่องมือ(สกัด) อยู่ในถุงพลาสติกวางไว้ข้างตู้จำนวน 1 อัน และจากการตรวจสอบศาลาที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายงัดตาข่ายเหล็กด้านที่เป็นโรงครัวที่อยู่ด้านข้างศาลาจนเป็นช่องขนาดใหญ่ ก่อนจะมุดเข้าไปแล้วเปิดหน้าต่างกระจกปีนเข้าไปในศาลา หลังได้เงินก็ปีนออกหน้าต่างอีกบาน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัด พบปั่นจักรยานเข้ามาก่อเหตุในเวลาประมาณ 00.05 น.(วันที่ 16 มี.ค. 64)โดยจอดรถจักรยานไว้ใกล้ประตูทางเข้าวัด ก่อนจะเดินมาที่บริเวณศาลาที่เกิดเหตุ เมื่อไม่เห็นใครก็เดินกลับไปเอาเครื่องมือที่เตรียมมาด้วยบริเวณตะกร้าหน้ารถ มางัดเข้าไปก่อเหตุ ก่อจะกลับมาที่รถแล้วปั่นออกไปจากวัด ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น พระครูอุดมวรรณวิจิตร เจ้าอาวาสวัด บอกว่า เคยมีเหตุงัดตู้บริจาคเมื่อ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เงินในตู้มีประมาณ 1 – 2 พันบาท ซึ่งปกติจะเปิดตู้รับบริจาคเดือนละครั้ง ตอนแรกว่าจะไม่มีการแจ้งความอะไร แต่เกรงว่าคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุอีก หรือไปก่อเหตุที่วัดอื่น ๆ อีก เพราะจากการดูลักษณะคนร้ายนั้นน่าจะมีความโชกโชนในการก่อเหตุงัดแงะ มีการเตรียมอุปกรณ์ในการก่อเหตุมาพร้อม มีการเตรียมทางหนีทีไล่ด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้ไปดูลู่ทางโรงเรียนที่อยู่ติดกับวัดอีกด้วย แต่เมื่อคืนมีครูอยู่ที่โรงเรียน และได้เห็นตัวคนร้ายด้วย ตอนเช้ายังได้สอบทางวัดว่ามีอะไรหายหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบปากคำ และให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคนร้ายจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป