ชมรมผู้ปลูกปาล์มน้ำมันฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ซื้อผลปาล์มในราคาต่ำกว่ามาตรฐาน ส่งผลทำให้ราคาผลผลิตต่ำกว่าความเป็นจริง ในอนาคตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศจะหายไป3แสนตัน ประเทศสูญเสียรายได้กว่า1หมื่นล้านบาท
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 16 มี.ค.64 นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมกลุ่มผู้ปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกจำนวนกว่า 10 คน ได้เดินทางไป ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ที่ซื้อผลปาลืมน้ำมันไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด หลังพบว่า ในช่วงเดือนมกราคา 2564 ที่ผ่านมา มีโรงงานหลายแห่งที่รับซื้อผลปาล์มน้ำมัน สกัดน้ำมันออกมาได้ต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด คือน้ำมันปาล์มที่สกัดออกมาจะต้องไม่ต่ำกว่า18เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่หน้าโรงงานฯก็ปิดป้ายว่า รับซื้อ 18เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป แต่จยังรับซื้ออยู่ที่ 15-16 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลทำให้ราคาผลผลิตต่ำกว่าความเป็นจริงที่เกษตรกรควรจะได้รับ โดยมี นายสมปอง รัตนะ หัวหน้ากลี่มงานศูนย์ดำรงธรรม และนายพิทักษ์ บุญคงแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายชโยดม กล่าวว่า การที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม รับซื้อผลผลิตไม่มีคุณภาพ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ พบว่าช่วงเดือนมกราคม 2564 เปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มอยู่ที่ 16.04 ซึ่งต่ำกว่ากฎหมายกำหนด นอกจากจะทำให้ราคาผลลิตของเกษตรกรตกต่ำกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ยังทำให้ประเทศชาติสูญเสียน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ น้ำมันปาล์มดิบ( CPO) ในประเทศก็จะขาดแคลน เพราะประเทศไทยสามารถผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้ 15ล้านตัน ต่อปี หากเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มต่ำกว่า18 % ก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบหาย ไปประมาณ 3 แสนตัน เมื่อเทียราคาปัจจุบันลิตรละ 36 บาท เท่ากับเงินที่เกษตรกรควรจะได้หายไป 10,800,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นแปดร้อยล้านบาท) คิดเป็นราคาผลปาล์มสดหายไป 0.72 บาท ต่อ1กก. เงินจำนวนมหาศาลที่เกษตรกรและประเทศชาติต้องสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ จากการที่ไม่กำกับดูแล และปล่อยปละละเลยของกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานชมรมกลุ่มผู้ปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าววอีกว่า เมื่อปี 2560 จังหวัดกระบี่ได้ร่วมกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการทดสอบเปอร์เซ็นต์น้ำมันของปาล์มน้ำมัน ของเกษตรกรในจ.ตรัง นครศรีธรรมราช พังงา สุราษฎร์ธานี ซึ่งผลการทดสอบคุณภาพปาล์มน้ำมันได้ 19.77 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตนมั่นใจว่าคุณภาพผลปาล์มน้ำมันของเกษตรกร ในจ.กระบี่จะต้อง ไม่ต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายพิทักษ์ บุญคงแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในเรื่องของราคาผลผลิตนั้นมราจากหลายปัจจัยต้องมองทั้งระบบ ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังทราบผลการตรวจสอบจากพาณิชย์จังหวัด ก็ได้มีหนังสือถึงโรงงาน เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ทุกโรงงานรับซื้อผลปาล์มคุณภาพ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำหนดให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มสดเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ขึ้นไป ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญโรงงานมาพูดคุยกันและรับปากว่า จะรับซื้อตามมประกาศฯ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยส่งหนังสือไปยังโรงงานต่างๆเพื่อขอความร่วมมือ และภายในเดือนมีนาคมนี้ก็จะส่งไปให้กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อออกประกาศให้โรงงานที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือ รง.4 รับซื้อผลปาล์มตามที่ประกาศต่อไป